เอ่ยชื่อ ฟุกุอิ (Fukui) หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไรใช่ไหมคะ เพราะจังหวัดนี้คนไทยยังไปเที่ยวกันค่อนข้างน้อย แต่ฟุกุอิเนี่ย เป็นหนึ่งในจังหวัดยอดนิยมของคนญี่ปุ่นเลยน้า คนญี่ปุ่นไปเที่ยวกันเยอะมากกก เยอะจนเรายังแอบตกใจ เพราะไม่นึกว่าเมืองรองของญี่ปุ่นจะมีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ แต่ก็ไม่แปลกใจเลย เพราะฟุกุอิเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาแบบสุดๆ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ทำเอาเราอึ้งไปเลยว่า โอ้วว มีแบบนี้ที่ญี่ปุ่นด้วยเหรอเนี่ย เราว่าเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ๆ ในญี่ปุ่นมากๆ เลย ไปค่ะ..เราลองไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองรองแห่งนี้ด้วยกันนะ
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าฟุกุอิเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับจังหวัดอิชิกาวะที่เราเพิ่งรีวิวไปเลยค่ะ Click ฉะนั้นถ้าใครตั้งใจมาเที่ยวฟุกุอิแล้ว แนะนำให้เที่ยวพ่วงสองจังหวัดไปเลย ส่วนตัวเราเดินทางจากโตเกียวไปตั้งต้นเช่ารถที่เมืองคานาซาว่าของจังหวัดอิชิกาวะก่อน แล้วก็ค่อยๆ ขับรถแวะเที่ยวจากอิชิกาวะไล่มาเรื่อยๆ จนถึงฟุกุอิ เป็นรูทที่ดีงามมาก อยากแนะนำให้ทุกคนมาเที่ยวฟุกุอิจริงๆ แล้วจะอึ้งในความอลังการหลายๆ อย่างของจังหวัดนี้เหมือนเราค่ะ
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดฟุกุอิ ต้องบอกว่ามีหลากหลายมากก ไม่แพ้จังหวัดอิชิกาวะเลยค่ะ แต่ที่โด่งดังสุดๆ ต้องยกให้เจ้าไดโนเสาร์หลายตัวหลากสายพันธุ์ที่ “Dinosaur Museum” เนี่ยแหละ เนื่องจากฟุกุอิเป็นจังหวัดที่มีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์จำนวนมาก จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางการวิจัยฟอสซิลไดโนเสาร์ที่สำคัญระดับโลกเลยทีเดียวน้า ใครที่ชอบเที่ยวเชิงธรณีวิทยาหรือประวัติศาสตร์ ปักหมุดฟุกุอิ รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอนค่า
ทริปนี้ได้ลองเปลี่ยนฟีลที่นอนถึง 3 ที่เลยค่ะ เดี๋ยวจะมารีวิวให้ในโพสนี้ด้วย ใครที่ชอบเก็บสแปร์ที่พักอันซีนสวยๆ ปักหมุดรอชมกันได้เลยค่า
วิธีการเดินทางมาจังหวัดฟุกุอิ (Fukui)
- กรณีมาจากโตเกียวแบบเรา แนะนำให้นั่งชินคันเซ็นมาลงที่ Kanazawa Station (ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง) แล้วเช่ารถขับแบบเราก็ได้ หรือถ้าไม่สะดวกเช่ารถขับก็สามารถต่อรถไฟ Thunderbird จากสถานี Kanazawa มาลงที่สถานี Fukui ได้เลย (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที)
- ถ้าอยากประหยัดเวลา เพราะนั่งชินคันเซ็นใช้เวลาค่อนข้างนาน ก็สามารถบินไฟลท์ภายในประเทศมาลงที่ Komatsu Airport ในจังหวัดอิชิกาวะได้ค่ะ หลังจากนั้นแนะนำให้นั่งรถบัสไปลงที่สถานี Komatsu (ใช้เวลา 12 นาที) แล้วต่อรถไฟ Thunderbird จาก Komatsu Station มาลงที่สถานี Fukui ได้เลย (ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่า)
- นั่งเครื่องบินมาลงสนามบินนาโกย่า แล้วนั่งรถไฟสาย Shirasagi จากสถานีนาโกย่า มาลงที่สถานีฟุกุอิได้เลย ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ ค่ะ
DAY 1
Tsumesyo Mikuni
คืนแรกในฟุกุอิเป็นคืนที่คาบเกี่ยวกับทริปอิชิกาวะค่ะ เพราะเราขับรถจากเมือง Kaga (จ.อิชิกาวะ) มานอนที่ “Tsumesyo Mikuni” ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Sakai (จ.ฟุกุอิ) ใช้เวลาขับรถข้ามจังหวัดมาประมาณ 40 นาที เท่านั้น
Tsumesyo Mikuni เป็นที่พักแบบเกสต์เฮาส์ คล้าย Airbnb ที่ไม่มีล็อบบี้สำหรับเช็คอิน ต้องเช็คอินกับเจ้าของ ซึ่งเปิดร้านขายต้นไม้อยู่ใกล้ๆ โดยสามารถจองผ่าน booking.com ได้ค่ะ ราคาคืนละประมาณ 5,xxx – 7,xxx บาท แต่ได้บ้านพักแบบนี้เลย
สนใจจองที่พัก Tsumesyo Mikuni สามารถคลิกลิงค์ด้านล่างได้เลยนะคะ
บ้านพักจะมีสองชั้นนะคะ ภายนอกดูเหมือนเป็นสไตล์เรียวกังแบบดั้งเดิม แต่ด้านในออกแบบตกแต่งได้ร่วมสมัยมาก ทุกอย่างดูใหม่และสะอาด เป็นระเบียบแบบสุดๆ แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แบบครบครันด้วยค่ะ
บ้านพักที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง 2 ห้อง คือ ในหนึ่งวัน เขาจะรับแขกแค่ 2 ห้องเท่านั้นค่ะ ฉะนั้นรับรองว่าเป็นส่วนตัวแน่นอน แถมยังมียูกาตะให้ใส่ถ่ายรูปสวยๆ ด้วยน้า เรารู้สึกได้ว่าเหมือนเขาตั้งใจออกแบบให้เป็นเรียวกังแบบร่วมสมัยค่ะ ดูภายนอกเหมือนเป็นบ้านพักเก่าแก่ แต่ด้านในคือใหม่มากๆ เลย
จากบ้านพักของเราจะมีทางเดินเล็กๆ ไปหลังบ้านซึ่งจะมีบ้านอีกหลังนึงด้วยค่ะ หลังนี้สวยมากก เหมือนบ้านในการ์ตูนญี่ปุ่นที่เคยอ่านตอนเด็กๆ เลย ยิ่งได้ใส่ยูกาตะมาเดินเล่นหน้าบ้านคือฟินเวอร์ๆ เลยจ้า
แผนที่ Tsumesyo Mikuni
Tojinbo (東尋坊)
เช้าวันแรกในฟุกุอิ เราขับรถจากที่พัก Tsumesyo Mikuni มาเที่ยวที่จุดเช็คอินแรกซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเลยค่ะ ที่นี่ คือ “Tojinbo (東尋坊)” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดฟุกุอิค่ะ
Tojinbo เป็นผาหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อเกิดการกัดเซาะผ่านกาลเวลามาเรื่อยๆ จึงกลายเป็นหน้าผาที่คล้ายมีเสาหินหลายร้อยตั้งเรียงรายเป็นแนวยาว ดูสวยแปลกตา น่าค้นหามากๆ เลย
แผนที่ Tojinbo
ที่นี่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นล้นหลามมากๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะได้มาถ่ายรูปกับผาหินรูปร่างแปลกตาแล้ว บริเวณรอบๆ ยังมีทั้งคาเฟ่ และร้านอาหารทะเลสดๆ เรียงรายเรียกน้ำย่อยอยู่หลายร้านเลยล่ะค่ะ
ใครมาเที่ยวที่นี่แล้วก็ขอให้เดินมาฝากท้องกันที่ Tojinbo Shopping Street ซึ่งมีร้านอาหารทะเลสดๆ ให้ชิมอยู่หลายร้าน แต่เราแนะนำร้านนี้เลย “Yamani Suisan” เพราะเขาขายทั้งแบบ Take away และมีที่นั่งด้านในสำหรับทานที่ร้านด้วย
มาญี่ปุ่นแล้วไม่กินปลาดิบ ซาซิมิ หรืออาหารทะเลสดๆ นี่ไม่ได้เลยน้า โดยเฉพาะมาเที่ยวเมืองริมทะเลแบบนี้ด้วยแล้ว จัดไปให้พุงกางเลยค่ะ! นอกจากอาหารทะเลสดๆ หลากหลายเมนูแล้ว ภายในร้านยังมีโซนของฝากด้วยนะคะ แวะช้อปปิ้งก่อนกลับกันได้เด้ออ
แผนที่ Yamani Suisan
จาก Tojinbo เดี๋ยวเราจะขับรถไปนอนอีกเมืองนึงค่ะ ระหว่างขับรถเปลี่ยนเมืองก็คือวิวสวยมากแม่ มองเห็นภูเขาหิมะอยู่ไกลๆ สวยจนต้องจอดแวะถ่ายรูปเลยค่ะ เราว่าฟุกุอิเป็นหนึ่งในจังหวัดที่น่ามา Road Trip มากเลยนะ เพราะความสุขของการขับรถเที่ยว นอกจากจุดหมายปลายทางแล้วก็คือ “ระหว่างทาง” นี่ละ สวยขนาดนี้ ไม่จอดแวะถ่ายรูปยังไงไหวว
EHSHIKOTO
อีกหนึ่งจุดแวะก่อนถึงจุดหมายของวันนี้ คือ “EHSHIKOTO” เป็นเหมือนอเวนิวที่มีคาเฟ่ ร้านอาหาร และวิวสวยๆ ให้ถ่ายรูปค่ะ เป็นจุดแวะพักที่วิวสวยเกินเบอร์ไปมากกก ใครขับรถมารูทเดียวกับเรา แนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าควรจอดแวะค่า
ยังอิ่มจากอาหารซีฟู้ดที่ Tojinbo Shopping Street อยู่ เลยสั่งซอฟต์ครีมมากินให้สดชื่นแบบเบาๆ
แผนที่ EHSHIKOTO
Hakujukan (柏樹關)
จุดหมายสุดท้ายซึ่งเป็นที่นอนของวันนี้ คือ “Hakujukan” เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้ Eiheiji Temple ซึ่งเป็นวัดพุทธนิกายเซนชื่อดังของญี่ปุ่นค่ะ โดยไฮไลท์ของโรงแรมนี้ นอกจากจะตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีบรรยากาศของภูเขาและลำธารแล้ว ยังเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงในเรื่องคอร์สการทำสมาธิในวิถีแบบเซนด้วยค่ะ
คืนนี้เราจะนอนกันที่นี่ก่อน แล้วเดี๋ยวเช้าวันรุ่งขึ้นจะพาไป Eiheiji Temple นะ เพราะเดินถึงกันได้เลย
นอกจากจะเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้วัดเอเฮจิมากแล้ว ที่นี่ยังมี Zen Concierge ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการรับรองจากวัดไดฮอนซัง เอเฮจิให้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อคอยแนะนำผู้เข้าพักที่อยากลองสัมผัสวิถีแห่งเซน เช่น การนั่งสมาธิ หรือทำพิธีแบบเซน โดยทางโรงแรมจะจัดโซนพื้นที่ไว้สำหรับทำกิจกรรมเหล่านี้ เพื่อให้คนที่มาพักและสนใจได้สัมผัสความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในที่พักของวัดเลยล่ะค่ะ
ห้องพักออกแบบคล้ายเรียวกังแต่เป็นสไตล์โมเดิร์น ราคาประมาณ 11,xxx บาท/คืน สามารถจองผ่าน booking.com หรือ Agoda ได้ค่ะ
สนใจจองที่พัก Hakujukan สามารถคลิกลิงค์ด้านล่างได้เลยนะคะ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของโรงแรมนี้ เซ็ตอาหารมังสวิรัติแบบญี่ปุ่นขนานแท้ เสิร์ฟมาทีละจานแบบสไตล์ญี่ปุ่นเลยค่ะ จริงๆ เมนูมีเยอะกว่าที่เราถ่ายรูปมามาก กว่าจะทานหมดใช้เวลาไปเป็นชั่วโมง อิ่มจนแทบจะกลิ้งกลับห้องเลยทีเดียวว 555
คืนนั้นฝนตกปรอยๆ ทั้งคืนเลยค่ะ ตื่นเช้ามาเลยเจอหมอกเต็มๆ เลย บรรยากาศดีมากๆ ถ้าใครมาพักที่นี่ เช็คเอาท์แล้วก็อย่าเพิ่งรีบออกไปไหนนะคะ แนะนำให้เดินไปที่ไดฮอนซัง เอเฮจิด้วย เดินตามทางในรูปนี้ไปได้เลย เดินประมาณไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงวัดแล้วล่ะค่ะ
แผนที่ Hakujukan
Eiheiji Temple (永平寺)
ไดฮอนซัง เอเฮจิ เป็นหนึ่งในวัดชื่อดังของญี่ปุ่นเลยค่ะ เป็นวัดพุทธนิกายเซนที่มีบรรยากาศเงียบสงบมากๆ เหมาะสำหรับการมานั่งสมาธิตามวิถีเซนเลย เพราะรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ขนาดเราแค่แวะมาแปบเดียวยังรู้สึกสงบสุดๆ และถ้าใครสนใจอยากสัมผัสวิถีแห่งเซน ที่วัดก็มีกิจกรรมให้ทำเหมือนที่โรงแรมฮาคุจุคังเลยนะคะ แต่ส่วนตัวเราแนะนำให้พักที่โรงแรมแล้วขอเข้าร่วมกิจกรรมที่โรงแรมก็ไม่ต่างกันค่ะ เพราะที่โรงแรมจะมีพนักงานที่สื่อสารภาษาอังกฤษคอยแนะนำให้ได้ แต่ที่วัดน่าจะสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นเป็นหลักค่า
แผนที่ Eiheiji Temple
DAY 2
Fukui Prefectural Dinosaur Museum
สถานที่ต่อไปที่เราอยากให้กาดอกจันเอาไว้เลยว่า * ต้องไป! * คือ “Fukui Prefectural Dinosaur Museum” ซึ่งเป็นไฮไลท์ของจังหวัดฟุกุอิเลยค่ะ เอาจริงๆ สารภาพตามตรงเลยว่าก่อนมาไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มาก คิดว่าน่าจะมีแค่ฟอสซิลไดโนเสาร์ให้ดูแค่ไม่กี่ตัว ปรากฏว่าพอมาถึงก็คืออึ้งไปเลย! เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่มากกกกกกก แถมคนญี่ปุ่นมาเที่ยวกันแบบคับคั่ง หนาแน่นสุดๆ ขนาดว่าเป็นวันธรรมดาแล้วฝนตกด้วย ก็เลยคุยกันติดตลกว่า อ่อ ไดโนเสาร์ นี่น่าจะเป็น Soft Power ของจังหวัดฟุกุอิสิน้าา
ภายในพิพิธภัณฑ์มีทั้งหมด 4 ชั้น เราสามารถซื้อตั๋วที่ตู้อัตโนมัติก่อนเข้าได้เลยค่ะ ราคา 1,000 เยน/คน พอเข้ามาปุ๊บก็ลงบันไดเลื่อนมาเริ่มต้นจากชั้นล่างสุดได้เลย
เราชอบเดินพิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่นมาก เพราะเขาออกแบบโซนต่างๆ ได้ดีสุดๆ คือแบ่งโซนชัดเจน มีทางเดินเชื่อมจุดต่างๆ อย่างเป็นระบบ แถมยังสร้างได้ยิ่งใหญ่อลังการมากกก เราเข้ามานี่คือร้องโอ้โหเลย เขิลตัวเองที่แอบคิดไว้ว่าน่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่มีฟอสซิลไดโนเสาร์แค่ไม่กี่ตัว ปรากฏว่าที่นี่เป็นศูนย์กลางการวิจัยฟอสซิลไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกไปเลยจ้าา เขาจัดแสดงฟอสซิลและเรื่องราวความรู้ต่างๆ ของไดโนเสาร์มากถึง 50 ตัว ทั้งสายพันธุ์ที่กินพืช และกินเนื้อ คือเดินดูเพลินมากๆ เลยล่ะค่ะ
เหตุผลที่ฟุกุอิเป็นจังหวัดซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องไดโนเสาร์ก็เพราะเขามีการขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่จังหวัดนี้เยอะเลยล่ะค่ะ ถึงขั้นตั้งชื่อสายพันธุ์ให้เลยนะ คือ ฟุกุอิแรพเตอร์ (Fukuiraptor) และฟุกุอิซอรัส (Fukuisaurus) เก๋ซะไม่มี
นอกจากโซนนี้ก็ยังมีหลายโซนเลยนะคะ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อัดแน่นด้วยความรู้แบบเน้นๆ แต่มีการนำเสนอได้อย่างน่าสนใจและไม่น่าเบื่อเลย แล้วก็ไม่ได้มีแต่เรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์นะคะ แต่ยังมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ด้วย ใครที่พาน้องๆ หนูๆ มา ยังมีโซนเอาท์ดอร์ให้ลองขุดหาฟอสซิลอีกด้วยล่ะค่ะ ใครที่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ แนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าควรมาสักครั้งในชีวิตค่า
แผนที่ Dinosaur Museum
Echizen Daibutsu (越前大仏)
สถานที่ต่อไป อลังการไม่แพ้ Fukui Prefectural Dinosaur Museum เลยค่ะ ตั้งอยู่ในเมืองคัตสึยามะเหมือนกัน ขับรถต่อมาแค่ประมาณ 10 นาที เท่านั้นเอง ที่นี่คือ “Echizen Daibutsu (越前大仏)” วัดที่รวบรวมความเป็นที่สุดของญี่ปุ่นไว้หลายอย่างเลย เป็นวัดที่เราชอบมาก ทั้งๆ ที่ปกติเราไม่ใช่สายวัฒนธรรมเท่าไร แต่พอได้มาที่นี่ คือยอมรับเลยว่าสุดจริง เป็นหนึ่งในสถานที่อันซีนที่ควรจัดใส่ Bucket list ของญี่ปุ่นว่าต้องมาสักครั้งในชีวิต!
สุดแรกของวัดเอจิเซ็นไดบุตสึ คือ เจดีย์ห้าชั้นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น! มีความสูงถึง 75 ม. และสามารถขึ้นลิฟต์ไปชมวิวมุมสูงจากด้านบนได้ด้วยค่ะ
สุดที่สองของวัดเอจิเซ็นไดบุตสึ คือ Birushana Nyorai ซึ่งเป็นพระพุทธรูปไดบุตสึที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในญี่ปุ่น! โดยพระพุทธรูปไดบุตสึในญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีจะอยู่ที่เมืองคามาคุระและนาราค่ะ ขนาดความสูงของพระใหญ่ไดบุตสึของวัดเอจิเซ็นไดบุตสึ เมื่อวัดจากฐานนั่ง จะมีความสูงถึง 17 เมตร สูงกว่าพระใหญ่ที่วัดโทไดจิในนาราซึ่งมีความสูง 14.7 เมตร และที่คาราคุระ ซึ่งมีความสูง 13.35 เมตร อยากให้ทุกคนลองไปเห็นด้วยตาตัว จะสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่เมื่อเดินเข้ามาในโถงนี้เลยล่ะค่ะ
สุดที่สามของวัดเอจิเซ็นไดบุตสึที่ทำให้เราอยากมาที่นี่มากๆ ก็คือ พระพุทธรูปหินที่ประดิษฐานอยู่บนผนังมากถึง 1,280 องค์! เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่มาก เรานี่อึ้งอ้าปากค้างไปเลย พอได้มองจากด้านล่างไล่ไปจนถึงด้านบน คือสวยงามและทรงพลังมากจริงๆ ตรงนี้เป็นอีกมุมที่ Instagramer ญี่ปุ่นชอบมาถ่ายรูปกันด้วยค่ะ ขอยกให้เป็นหนึ่งในสถานที่อันซีนในดวงใจไปเลย!
ภายในบริเวณวัดใหญ่มากนะคะ ถ้าใครไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแบบเรา แนะนำให้เดินไปจนถึงด้านหลังของโถงไดบุตสึ จะเจอสวนสวยๆ ซึ่งเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยค่ะ สวยมากกก กำลังพีคเลยทีเดียว
แผนที่ Echizen Daibutsu
Heisenji Hakusan Shrine (白山平泉寺)
จากวัดเอจิเซ็นไดบุตสึ ขับรถต่อมาอีกประมาณ 5 นาที จะถึงอีกหนึ่งสถานที่ทางวัฒนธรรมที่สำคัญและมีชื่อเสียงมากๆ ของจังหวัดฟุกุอิอย่าง “Heisenji Hakusan Shrine (白山平泉寺)” เป็นศาลเจ้าชินโตที่ตั้งอยู่กลางป่ามอสซึ่งมีขนาดใหญ่มากกกก ต้นไม้แต่ละต้นที่สูงจนมองแล้วเมื่อยคอเลยล่ะค่ะ
Heisenji Hakusan Shrine ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 1,300 ปีที่แล้ว ราวปี ค.ศ. 717 เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยในอดีต มีการเรียกศาลเจ้าเฮเซ็นจิฮาคุซังว่า “วังตะไคร่น้ำแห่งฟุกุอิ” เพราะตั้งอยู่ในป่าใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยมอสหรือตะไคร่น้ำไปทั่วบริเวณนั่นเองค่ะ
ทางเดินไปยังอาคารหลักของศาลเจ้าจะปูด้วยหินและสวยงามจนได้ติดอันดับ 100 ถนนสวยของญี่ปุ่นด้วยล่ะค่ะ
ภายในศาลเจ้ามีขนาดใหญ่และกว้างขวางมากนะคะ มีเส้นทางสำหรับเดินเทรลด้วย โดยบริเวณนี้ คือ บ่อน้ำมิตาราอิ เป็นบ่อน้ำที่ตำนานเล่าขานว่าเป็นแหล่งกำเนิดของวัดเฮเซ็นจิ และเป็นสถานที่ที่เทพธิดาแห่งภูเขาฮาคุซังปรากฏขึ้นค่ะ
แผนที่ Heisenji Hakusan Shrine
Yumesuke Dango (米の菓ゆめすけ)
ดื่มด่ำอิ่มเอมกับวัฒนธรรมของจังหวัดฟุกุอิมาหลายสถานที่แล้ว ขอพาเปลี่ยนฟีลไปดื่มด่ำกับของหวานอร่อยๆ อย่าง ดังโงะ ที่ร้าน Yumesuke Dango (米の菓ゆめすけ) กันบ้างดีกว่าค่ะ ที่นี่เป็นคาเฟ่ดังโงะที่น่ารักมาก มีเมนูดังโงะให้เลือกหลายเมนู หลายรสชาติเลย ใครที่มาเที่ยวฟุกุอิก็อยากให้แวะมาลองชิมนะคะ เพราะอร่อยทุกเมนู นี่พูดแล้วยังอยากกินอีกเลยค่ะ เพราะที่เมืองไทยหาดังโงะอร่อยๆ กินยากเหลือเกิน
ร้านนี้สามารถสั่งแบบ Take away หรือนั่งกินในร้านก็ได้นะคะ ในร้านก็ออกแบบสวย ฟีลแบบโคซี่ ดูอบอุ่นสไตล์เจแปนนีสจริงๆ
แผนที่ Yumesuke Dango
Tree Picnic Adventure IKEDA
มาถึงคืนสุดท้ายในฟุกุอิแล้วค่ะ คืนนี้เราจะเปลี่ยนฟีลมานอนกันที่ “Tree Picnic Adventure IKEDA” ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ที่ตั้งตารอคอยสำหรับทริปนี้มากๆ เพราะเป็นการมาแคมป์ปิ้งที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิตเลย
Tree Picnic Adventure IKEDA เป็นเหมือนสถานที่สำหรับคนรักการผจญภัยค่ะ มีกิจกรรมต่างๆ เช่น ซิปไลน์ รวมไปถึงบ้านพักแบบคอตเทจซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของเมืองอิเคดะ แต่ไฮไลท์ของการมาพักที่นี่ ไม่ใช่คอตเทจแบบธรรมดาค่ะ แคมป์ปิ้งที่ญี่ปุ่นครั้งแรกทั้งที ต้องนี่เลย .. เต็นท์บนต้นไม้!
น่าจะเป็นที่เดียวในญี่ปุ่นเลยที่มีเต็นท์บนต้นไม้แบบนี้ให้เราได้ลองมาสัมผัสประสบการณ์และดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติที่รายล้อม แม้ในเต็นท์จะมีให้แค่ถุงนอนกับไฟฉาย แต่วิวที่เห็นตรงหน้าคือดีงามมากแม่ สายธรรมชาติที่อยากใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้ทรูต้องมาลองสัมผัสสักครั้ง น่าจะอิ่มเอมใจมากๆ เลยล่ะค่ะ
ราคาสำหรับการพักในเต็นท์ต้นไม้จะอยู่ที่ 20,000 เยน/คืน สามารถจองผ่านเว็บไซต์ https://www.picnic.ikeda-kibou.com/tent/ ได้เลยค่ะ (แนะนำให้ใช้ Google Translate ช่วยในการแปลภาษานะคะ) โดยราคานี้จะไม่รวมค่าอาหาร และที่นี่จะไม่มีร้านอาหารเลย นอกจาก Barbeque House เป็นสถานที่สำหรับปิ้งย่างบาร์บีคิว ซึ่งเราต้องจองเซ็ตบาร์บีคิวแยกต่างหากค่ะ (สามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้เช่นกัน)
แคมป์ปิ้งเมืองไทยอาจจะฟินกับหมูกระทะ แต่ที่ญี่ปุ่นเขามีเซ็ตยากิโซะให้เราทำเองด้วยค่ะ ได้ฟีลไปอีกแบบนะ ช่วงที่สุขที่สุดของการแคมป์ปิ้งนอกจากนอนดูวิวแล้วก็ตอนทำอาหารกินเองนี่ละเน้อออ
สำหรับที่นอนแบบเต็นท์จะไม่มีห้องอาบน้ำให้และต้องใช้ห้องน้ำรวมนะคะ ถ้าอยากอาบน้ำต้องเดินไปอาบที่ออนเซ็นที่ชื่อ Kanmurisou (冠荘) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ เห็นว่าเดินไปประมาณ 5 นาที แต่เราไม่ได้อาบ เพราะตอนที่ไปหนาวมากก อุณหภูมิประมาณ 1-3 องศา ใครจะอาบไหวแม๊ อ่อ ห้องน้ำรวมก็สะอาดมากค่ะ เป็นชักโครกอัตโนมัติเหมือนห้องน้ำสาธารณะที่อื่นๆ ในญี่ปุ่นเลย
เป็นคืนสุดท้ายในฟุกุอิที่ฟูลฟีลจริงๆ อิ่มเอมใจกับทริปนี้มากๆ ได้ Road Trip จากจังหวัดอิชิกาวะมาถึงจังหวัดฟุกุอิที่เป็นจังหวัดอันซีนสุดๆ สำหรับเรา โดยส่วนตัวแล้วเราชอบทั้งสองจังหวัดเลยค่ะ ถ้าใครกำลังมองหาที่เที่ยวในญี่ปุ่นที่แปลกใหม่สำหรับคนไทย เราแนะนำรูทนี้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่า
ใครสนใจอยากเที่ยวสองจังหวัดเลย แวะไปอ่านรีวิวจังหวัดอิชิกาวะได้ที่นี่น้า > แผนเที่ยว Ishikawa 3 วัน 2 คืน พร้อมรีวิวที่พัก
แผนที่ Tree Picnic Adventure IKEDA
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นยังมีอีกนะ
• 5 ที่เที่ยวเกียวโต 2 วัน 1 คืน เดินทางชิลๆ เปลี่ยนฟีลจากโอซาก้า
• พาเที่ยว 2 ตลาดคริสต์มาส โตเกียว Tokyo Christmas Market 2023
• นั่งรถไฟเที่ยว Kamakura-Enoshima อีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้โตเกียวที่มองเห็นฟูจิซัง!
• รวม 9 จุดถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิ แบบสวย Unseen ไม่ซ้ำใคร
• เที่ยว Osaka กับมุม Unseen ที่ยังไม่ค่อยมีใครเห็น
• Amanohashidate view land ที่เที่ยว Unseen เกียวโต
• Mojiko Retro เมืองท่าบรรยากาศยุโรป อีกหนึ่งเมืองถ่ายรูปสวยในคิวชู
• Kyushu road trip ขับรถเที่ยวคิวชู เส้นทางฟุกุโอกะ คุมาโมโตะ และโออิตะ
ขอบคุณมากๆ สำหรับรายละเอียดการท่องเที่ยวแบบเจาะลึกจริงๆ ค่ะ
ถ้าขับรถในช่วงต้นมีนา จะมีโอกาสเจอหิมะมั้ยคะ ทางขับยากมั้ยคะ
ถนนที่ฟุกุอิขับไม่ยากเลยค่า สบายๆ เลย แต่ถ้าไปช่วงเดือนมีนาคม ปกติหิมะจะเริ่มละลายแล้วค่ะ อาจจะไม่ได้เจอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศอีกทีด้วยค่ะ ไม่แน่ไม่นอนช่วงนี้