เที่ยวโอซาก้า (Osaka) กับมุม unseen ที่ยังไม่ค่อยมีใครเห็น

พาไป เที่ยวโอซาก้า ช่วงฤดูร้อนแบบ on a budget กันค่ะ ส่วนตัวเราก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อน ค่าตั๋วเครื่องบินดูจะถูกกว่าช่วงอื่นๆ แฮะ ทริปนี้เลยลองหาที่เที่ยวใหม่ๆ ในโอซาก้าที่แม้แต่เราเองก็ยังแปลกใจว่า โอ๊ะ โอซาก้าก็มีมุมแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย

โอซาก้าทริปนี้ เราไม่ได้แลกเงินมาเลยค่ะ เพราะที่ญี่ปุ่นตอนนี้แทบจะกลายเป็นสังคมไร้เงินสดแล้ว มีแค่บัตรเครดิตใบเดียวก็เอาอยู่ ใช้จ่ายได้ทุกอย่างยันคอนบินิหรือร้านสะดวกซื้อ ยิ่งถ้าใครมีทริปไปญี่ปุ่นบ่อยๆ แบบเรา แนะนำ “บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน” เลยค่ะ เป็นบัตรเครดิตที่เอาไปใช้ที่ญี่ปุ่นคุ้มสุดๆ แล้ว เพราะมาพร้อมสิทธิพิเศษหลายเด้ง หลายต่อ ครอบคลุมตลอดทั้งทริปเลย

ปกติมาโอซาก้าก็เที่ยวอยู่แต่ในเมือง เพิ่งรู้ว่านอกเมืองออกไปก็มีที่เที่ยวสวยๆ เยอะเลยนะเนี่ย เป็นโอซาก้าในมุมแปลกตาที่ยังไม่ค่อยได้เห็นจากที่ไหนเลย ไปค่ะ เดี๋ยวโพสนี้จะพาไป เที่ยวโอซาก้า ในมุมมองใหม่ๆ ดูบ้างนะ เผื่อเป็นไอเดียให้คนที่กำลังวางแผนเที่ยวคันไซ ได้มีที่ใหม่ๆ ไปเช็คอินกันบ้างเนาะ : )

การเดินทางเข้าญี่ปุ่นช่วงนี้ไม่ยุ่งยากอะไรแล้วนะคะ แต่ก็แนะนำให้ทำ Visit Japan Web ไปก่อนเลย เพราะถ้าไม่ทำ เราก็ต้องไปกรอกใบ ตม. แบบกระดาษก่อนเข้าอยู่ดี ถ้าลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ไปก่อนแล้ว ไปถึงสนามบินที่ญี่ปุ่น ก็แค่โชว์ QR Code ให้ ตม. ดูเท่านั้นเอง ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยค่า

เราเคยรีวิววิธีกรอก Visit Japan Web แบบละเอียดไว้ให้แล้ว ลองไปทำตามกันได้นะคะ Click

ทริปนี้เรามาช่วงเดือนกันยายน ซึ่งยังเป็นฤดูร้อนอยู่ค่ะ เพิ่มเติมคือเป็นเดือนที่พายุไต้ฝุ่นเรียงคิวกันเข้าญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม ตามสถิติ คือ 20 ลูกเลยทีเดียว แต่เรามา ก็เจอฝนบ้าง แดดบ้าง สลับกันไปค่ะ อากาศร้อนเหมือนเมืองไทย แต่บรรยากาศคึกคัก นักท่องเที่ยวหนาตาสุดๆ ดูเหมือนจะเยอะกว่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วยซ้ำค่ะ

ดีลดีๆ ของ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน มีให้ตั้งแต่ตอนจองตั๋วเครื่องบินเลยนะ เพราะมีแคมเปญ ”บินปลายปี ได้คืนคุ้ม” เมื่อซื้อบัตรโดยสาร 7 สายการบินที่ร่วมรายการก็รอรับ เครดิตเงินคืนสูงสุด 2,200 บาท* ได้เลย

ทริปนี้ เราบินกับแอร์เอเชีย ค่าตั๋วแค่ 12,240 บาท/คน เท่านั้น ถูกกว่าช่วงปลายปีเป็นเท่าตัวเลย แถมได้เครดิตเงินคืนเมื่อใช้ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน จ่ายอีก แค่ต่อแรกก็ประหยัดไปได้เยอะแล้วล่ะค่า ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลย

ส่วนใครที่มีแพลนเดินทางไกล เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น ก็ยังมี “แคมเปญ บินไกลปลายปี เที่ยวที่ไหนก็ได้คืน” เมื่อซื้อบัตรโดยสารของ 11 สายการบินที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12,000 บาท* ดูเลย

พาไปเริ่มต้นทริป เที่ยวโอซาก้า ฤดูร้อนกันที่ Katsuoji Temple ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของโอซาก้า ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 1 ชั่วโมง ค่อนข้างไกลเหมือนกันค่ะ เพราะวัดตั้งอยู่บนเขา โอบล้อมด้วยธรรมชาติ

บางคนอาจรู้จักวัดนี้ในอีกชื่อ คือ “วัดดารุะมะ” เพราะเป็นวัดที่มีตุ๊กตาดารุมะอยู่เยอะมากๆ เราว่าเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่น่ารักดีค่ะ เพราะระหว่างทางเดินในวัด ก็จะมีตุ๊กตาดารุมะตัวเล็กๆ วางเรียงให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ เลย

คนญี่ปุ่นเค้าจะเรียกวัดแห่งนี้กันว่า “วัดแห่งชัยชนะ” เพราะตุ๊กตาดารุะสื่อถึงความสมหวังค่ะ การที่วัดคัทซึโอจิมีตุ๊กตาดารุมะอยู่หลายตัวก็เพราะว่า มีคนประสบความสำเร็จจากการอธิษฐานขอพรมากนั่นเอง

แรกเริ่มเมื่อเราได้ตุ๊กตาดารุมะไป จะยังไม่มีตาทั้ง 2 ข้างเลยค่ะ เราก็ต้องเริ่มต้นวาดตาข้างนึงก่อน จากนั้นก็อธิษฐานขอพรในสิ่งที่ต้องการทำให้บรรลุผล แล้วก็วางตุ๊กตาดารุมะเอาไว้ในที่ที่สามารถเห็นได้ง่ายๆ เวลาท้อแล้วมองจะได้มีแรงฮึดในการทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ หลังจากมุ่งมั่นพยายามทำในสิ่งที่ขอพรไว้จนสมหวังแล้ว เราก็ค่อยมาวาดตาให้ดารุมะอีกข้าง แล้วก็นำมาถวายไว้ที่วัดค่ะ เพราะฉะนั้น ตุ๊กตาดารุมะที่เห็นกันอยู่หลายตัวนี้ก็คือสัญลักษณ์ของความสมหวังแทบทั้งหมดเลยล่ะค่า

พิกัด Katsuoji Temple

เติมความสมหวังแล้ว เดี๋ยวเราไปเติมความชิลกันที่ Kitahama ย่านชิลริมน้ำของโอซาก้ากันต่อเลยดีกว่าค่ะ ย่านนี้เป็นย่านที่มีร้านอาหาร และคาเฟ่อยู่หลายร้านเลย บรรยากาศชิคมากๆ เลยล่ะค่ะ

ด้วยความที่เราพักอยู่ย่านนี้ ก็เลยแวะมานั่งชิลอยู่หลายครั้งเลย แต่ละร้านจะมีที่นั่งเอาท์ดอร์ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำ โดยวิวที่เห็นด้านหลังคือ Osaka City Central Public Hall ค่ะ สามารถเดินข้ามฝั่งไปนั่งชิลๆ ตรงด้านหน้า Osaka City Central Public Hall ได้เช่นกันนะ คาเฟ่ร้านนี้ชื่อ MOUNT Kitahama ค่ะ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นพวกเครื่องดื่ม และเบเกอรี่ อร่อยมากๆ

พิกัด MOUNT Kitahama : https://maps.app.goo.gl/CRePTFeVZs7HjdU98

อีกร้านที่เราแวะไปนั่ง คือ &Island ตั้งอยู่ใกล้ๆ ร้าน MOUNT เลยค่ะ มีทั้งโซนที่นั่งเอาท์ดอร์ และอินดอร์ แต่วันที่ไปฝนตก ก็เลยต้องมูฟเข้ามานั่งด้านในกัน ร้านนี้มีพวกเมนู Lunch ด้วยค่ะ หรือจะแวะมานั่งกินกาแฟ ขนมหวานก็มี แต่อาจจะไม่เยอะเท่าร้าน MOUNT ค่า

เข้าคาเฟ่ หรือร้านอาหารที่ญี่ปุ่น จ่ายด้วยบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน สะดวกสุดๆ เลยนะคะ โดยเฉพาะ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เขามีแคมเปญ เที่ยวฟิน in Japan กิน เที่ยว แล้วจ่ายเป็นสกุลเงินเยนที่ญี่ปุ่น รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4,000 บาท ไปเลยย Click ดูรายละเอียด

พิกัด &Island : https://maps.app.goo.gl/E2MNbjRLYKyQNbxe8

ไหนๆ ก็โฉบมาย่าน Kitahama แล้ว ขอแวะมารีวิวที่พักเลยละกัน เพราะอยู่ในย่านใกล้ๆ กันเลยค่ะ ทริปนี้เราพักที่ Sotetsu Fresa inn Yodoyabashi ถึงจะไม่อยู่ในย่านท่องเที่ยวซะทีเดียว แต่ทำเลดีมากๆ เพราะนั่งรถไฟใต้ดิน Midosuji Line ลงสถานี Yodoyabashi แล้วเดินอีกแค่นิดเดียวก็ถึงโรงแรมเลย แถมยังสามารถขึ้นลิฟต์จากสถานีรถไฟใต้ดินขึ้นไปโรงแรมได้เลยอีกด้วย สะดวกมากๆ เลยล่ะค่ะ

เราจองที่พักผ่านเว็บไซต์ Traveloka ใช้บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน จ่ายอีกแล้วแม่ เพราะจะได้รับโค้ดส่วนลดสูงสุด 400 บาท* เมื่อจองที่พัก และโรงแรมในญี่ปุ่น อีกทั้งยังสามารถรับโค้ดส่วนลดได้อีกสูงสุดถึง 1,500 บาท* เมื่อจองเที่ยวญี่ปุ่น ไทย และทั่วโลก กับ Traveloka ด้วยบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน บอกแล้วว่าสิทธิประโยชน์เขาครอบคลุมทั้งทริปจริงๆ ค่า

* รับส่วนลด 400 บาท เมื่อระบุโค้ด GCSHOTELJP23 (สำหรับการยอดขั้นต่ำตั้งแต่ 5,000บาทขึ้นไป/หมายเลขการจอง) Click ดูรายละเอียด

โรงแรมนี้เป็นระบบ Self Check-in / Out นะคะ แต่ไม่ต้องกังวลนะ เพราะง่ายกว่าที่คิดเยอะเลย แถมยังมีพนักงานคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือ ถ้างงๆ หรือเช็คอินด้วยตัวเองไม่ได้ ถ้าเราจองโดยใช้บัตรเครดิตมา ระบบก็จะตัดเงินเลย ไม่ต้องมาจ่ายตอนเช็คอินเอง แค่กรอกข้อมูล และรอรับคีย์การ์ด ก็ขึ้นห้องได้เลย ตอนเช็คเอาท์ก็แค่ใส่คีย์การ์ดเข้าไปในเครื่องเท่านั้น จบ สะดวกสุดๆ ไปเลยค่ะ

ห้องพักก็จะเป็นสไตล์ Business Hotel ทั่วๆ ไป ห้องไม่ได้ใหญ่มาก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันค่ะ สามารถวางกระเป๋าเดินทางใต้เตียงได้ ใครไปพักที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ ก็จะชินกับห้องขนาดเท่านี้ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว โอซาก้า หาห้องใหญ่ๆ ยากมากค่ะ ห้องนี้เราจองมาตกคืนละประมาณ 2,400 บาท ถือว่าราคารับได้เลย ทำเลดี เดินทางไปย่านต่างๆ สะดวกมากค่า

พิกัด Sotetsu Fresa inn Yodoyabashi

จากที่พัก นั่งรถไฟใต้ดิน Midosuji Line มาสองสถานี ลงที่ Shinsaibashi Station ก็จะถึงย่านช้อปปิ้งชิคๆ ของวัยรุ่นโอซาก้าอย่าง America Mura แล้วล่ะค่ะ

เอาจริงๆ ที่นี่อยู่ใกล้ Dotonbori ย่านฮิตของโอซาก้าเลยนะ เดินประมาณ 700 เมตร เท่านั้นเอง หลายคนอาจจะรู้จักแค่ย่านชินไซบาชิ และนัมบะมากกว่า เลยไม่ค่อยได้เดินเลยมา ถ้าใครแพลนไป เที่ยวโอซาก้า เมื่อไร แนะนำเดินแวะมาย่านนี้ด้วย รับรองว่าช้อปปิ้งได้ฉ่ำใจกว่าเดิมแน่นอน เพราะเสื้อผ้าฮิปๆ เพียบเลยล่ะค่ะ

ช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นก็สามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายได้แบบสะดวกเลยนะคะ โดยเฉพาะถ้าใครถือ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน แล้วช้อปเป็นสกุลเงินเยนที่ญี่ปุ่น รวมช้อปออนไลน์ (เว็บไซต์ที่จดทะเบียนประเทศญี่ปุ่น) รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4,000 บาท* ไปเลยค่า Click

สายช้อปมาย่านนี้ เผื่อเวลาไว้เยอะๆ เลยนะคะ เพราะระหว่างทางเดินไปย่านชินไชบาชิก็ยังมี Orange Street ให้แวะช้อปอีก เป็นย่านละลายทรัพย์ที่แท้ทรูจริงๆ

พิกัด America Mura

เดินช้อปเพลินๆ มาเรื่อยๆ แป๊บๆ ก็มาถึงย่านชินไชบาชิที่โด่งดังของโอซาก้าแล้วล่ะค่ะ ย่านนี้คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากมายเนอะ เพราะไม่ว่าใครมา เที่ยวโอซาก้า ยังไง๊ ยังไงก็ต้องแวะมาเช็คอินที่นี่กันอยู่แล้ว!

เป็นย่านที่คึกคักตลอดทั้งคืนจริงๆ อาจจะเห็นว่าไม่มีรูปกูลิโกะ ไม่ต้องแปลกใจนะคะ เพราะคนเยอะจนยากที่จะแทรกตัวเข้าไปถ่ายจริงๆ 555 เรามาที่นี่ก็หลายครั้ง แต่กลับรู้สึกว่าฤดูร้อนคนเยอะสุดๆ ไปเลยค่ะ

นอกจากมาถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะแล้ว ก็อย่าลืมชิมทาโกยากิด้วยนะ เพราะเป็นเมนูขึ้นชื่อของโอซาก้าเขาล่ะค่า

พิกัดป้ายกูลิโกะ

ไปต่อกันอีกหนึ่งย่านฮิต แต่เป็นมุมลับๆ ที่เรายังไม่ค่อยเห็นคนไทยแวะไปเท่าไรค่ะ จะพาไปถ่ายรูปบน Tsutenkaku Tower ในย่านชินเซไก (Shinsekai) ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองโอซาก้าได้แบบ 360 องศาเลย

ก่อนอื่น เราต้องซื้อตั๋วขึ้นไปดูวิวบน Tsutenkaku Tower ก่อน หรือถ้าใครมีแพลนทำกิจกรรมอื่นๆ ในโอซาก้า เราก็แนะนำให้จองผ่าน Klook มาได้เลยนะคะ เพราะจะได้รับส่วนลดสูงสุด 15%* สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ชำระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เพียงแค่กรอกโค้ดส่วนลด KSCJOYJP (สำหรับลูกค้า UCHOOSE บนหน้า UMALL ยอดจองตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป/หมายเลขการจอง)

ค่าขึ้นไปดูวิวด้านบนหอคอย 900 เยน/คน แต่ถ้าจะออกไปถ่ายรูปมุมนี้ (ซึ่งฮิตมากๆ ใน IG คนญี่ปุ่น) ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 300 เยน สามารถซื้อตั๋วที่ตู้อัตโนมัติด้วยตัวเองได้ที่ชั้น 5 เลยค่า

ถ่ายรูปกับวิวโอซาก้ามุมสูงแล้ว แนะนำลงมาเดินเล่นย่านชินเซไกต่อเลยน้า อยู่ให้ถึงช่วงค่ำๆ ที่เขาเปิดไฟก็จะยิ่งเพิ่มความคึกคักขึ้นไปอีกเท่าตัวเลยล่ะค่ะ

มาย่านนี้แล้ว ของกินที่ห้ามพลาดเลยคือ ของทอดเสียบไม้แบบนี้นะคะ มีขายหลายร้านมากๆ ร้านไหนว่างก็เข้าร้านนั้นได้เลย อร่อยทุกร้านค่า

พิกัด Tsutenkaku Tower

ที่สุดท้ายก่อนกลับไทย ขอพาไปนั่งดูฟ้าหวานๆ กันที่ Rinku Marble Beach ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สนามบินเลยค่ะ ถ้าใครเคยไปสนามบินคันไซ น่าจะจำสะพานที่ข้ามจากสนามบินมาได้ ตรงชายหาดนี้จะมองไปเห็นวิวสะพานนั้นเลย แถมยังเห็นเครื่องบิน Take off & Landing อีกด้วย ส่วนตัวเราว่าเป็นอีกหนึ่งมุม Unseen ในโอซาก้าที่มีความมินิมอล มินิใจ แถมใกล้สนามบินมากๆ เลยน้า สามารถแวะก่อนกลับไทยได้เลย

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ Rinku Marble Beach คือ เป็นหาดหินสีขาวค่ะ ไม่ใช่หาดทราย เราว่าสวยแปลกตามากๆ เลยนะ เห็นคนญี่ปุ่นจูงมือแฟนมานั่งดูพระอาทิตย์ตกกันหลายคู่เลย ถ้าใครมาคนเดียวก็อาจจะเหงาๆ หน่อยน้า

ดูพระอาทิตย์ตกเสร็จ ก็แวะช้อปปิ้งต่อที่ Rinku Premium Outlets ต่อได้เลย เพราะอยู่ใกล้ๆ กันเลยค่ะ การเดินทางก็ง่ายมากๆ เพราะเป็นทางกลับสนามบินอยู่แล้ว สามารถนั่งรถไฟ Nankai Line ลงสถานี Rinku Town แล้วเดินต่อมาอีกประมาณ 700 เมตร เท่านั้นค่า

ดูรีวิว Rinku Marble Beach เวอร์ชั่นวิดีโอ คลิกเลย

พิกัด Rinku Marble Beach

สารภาพตามตรงว่า ก่อนหน้านี้เราแอบเบื่อโอซาก้านิดๆ เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรให้เที่ยวแล้ว แต่มารอบนี้เปลี่ยนใจเลยค่ะ เฮ้ย โอซาก้ายังมีอีกหลายที่ที่ยังไม่เคยไปเลยนี่หน่า แถมเป็นมุมแปลกตาที่ยังไม่ค่อยเห็นอีกด้วย ทริปนี้ถ่ายคลิปมาเยอะเหมือนกันน้า เดี๋ยวเอาไว้จะมารีวิวเวอร์ชั่นวิดีโอให้ ฝากรอติดตามกันด้วยนะคะ