ขับรถเที่ยวไต้หวัน 5 วัน 4 คืน อัพเดทที่เที่ยว ที่กิน มุมถ่ายรูป

กลับมาเที่ยวไต้หวันอีกครั้งในรอบหลายปี รู้สึกว่าไต้หวันมีที่เที่ยวใหม่ๆ ให้อัพเดทเยอะเลย โพสนี้เราจะมาอัพเดท ที่เที่ยว ที่กิน มุมถ่ายรูป พร้อมวิธี ขับรถเที่ยวไต้หวัน แบบละเอียดให้ เผื่อใครอยากเปลี่ยนฟีลมาขับรถเที่ยวดูบ้าง ถึงแม้จะขับฝั่งซ้าย แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิดเลย รวมไปถึงทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนวางแผนเที่ยวไต้หวัน ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวต่างประเทศช่วงปลายปี ปักหมุดไต้หวันไว้ ไม่มีผิดหวังแน่นอน

คนไทยไปเที่ยวไต้หวันได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า 14 วัน นะคะ ขั้นตอนการผ่าน ตม. ก็ง่ายดายมาก ไม่ถามอะไรสักคำ ปั๊มผ่านทันทีเลย เราสามารถกรอกใบ ตม. แบบออนไลน์ ไปก่อนได้เลย ไปถึงก็แค่ยื่นพาสปอร์ตให้ ตม. เท่านั้นเองค่ะ ง่ายมากๆ เลย

ดูวิธีกรอกใบ ตม.ไต้หวันแบบออนไลน์และแบบกระดาษ Click

ตอนนี้ไต้หวันอยู่ในช่วงฤดูร้อนค่ะ ก็คืออออ อากาศร้อนไม่ต่างจากบ้านเราเลย กลางวันประมาณ 31-34 องศา บางวันจะมีฝนตกบ้าง เพราะเป็นช่วงมรสุม ถ้าแพลนไปช่วงนี้ก็อาจจะต้องลุ้นสภาพอากาศกันนิดนึง แต่เราโชคดีที่มาเจอฝนช่วงท้ายๆ ทริป ถ้าใครชอบเที่ยวแบบอากาศดีๆ ไม่ร้อน ไม่หนาวมาก แนะนำช่วงปลายปีนะคะ อากาศเย็นสบายเลย

แพลน ขับรถเที่ยวไต้หวัน ของทริปนี้คือ ขับรถลัดเลาะขึ้นไปทางฝั่งเหนือของเกาะไต้หวัน แวะเที่ยวจุดต่างๆ ใน Taipei / New Taipei / Keelung และ Yilan เพื่อนั่ง Bong Bong Train เข้าไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ Taipingshan โดยเฉพาะเลยค่ะ ถ้าใครไปไต้หวันช่วงฤดูร้อนแล้วอยากหนีร้อนไปพึ่งเย็น แนะนำให้ไป Taipingshan เลยนะ อุณหภูมิบนนั้น 17 องศากันเลยทีเดียว เป็นอีกที่ที่เราชอบมากๆ เลยล่ะค่ะ

เอาจริงๆ หนึ่งในสิ่งที่เราต้องทำทุกครั้งก่อนเดินทางก็คือ “ประกันภัยการเดินทาง” นี่ละ สำคัญมากกว่าที่คิดนะคะ เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะไปเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอะไรที่เมืองนอกหรือเปล่า ยิ่งเป็นทริปที่แพลนไป ขับรถเที่ยวไต้หวัน แบบนี้ แถมอยู่ในช่วงมรสุมด้วย มีประกันภัยการเดินทาง ยังไงก็อุ่นใจตลอดทริปแน่นอน

เราทำประกันภัยการเดินทางของ AXA Thailand เพราะคุ้มครองครอบคลุม แถมมีแผนประกันภัยให้เลือกหลายแผนตามงบด้วย เบี้ยประกันเริ่มต้นแค่ 186 บาท/คน เท่านั้นค่ะ ที่สำคัญ เขายังมีบริการ AXA Hotline เป็นสายด่วนที่โทรปรึกษาได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม. อีกทั้งยังซื้อล่วงหน้าได้ถึง 6 เดือน และซื้อพร้อมกันได้สูงสุดถึง 9 คนเลยทีเดียว สามารถเข้าไปซื้อประกันการเดินทางได้ด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์แบบง่ายๆ ที่นี่เลยน้า https://u.axa.co.th/axatravelinsurance

สำหรับขั้นตอนการทำประกันภัยการเดินทางก็ง่ายมากค่ะ สามารถเลือกซื้อได้ทั้งประกันภัยการเดินทางภายในประเทศและต่างประเทศเลยนะ
1. หลังจากเข้ามาที่เว็บไซต์ https://u.axa.co.th/axatravelinsurance ให้เลือกรายเที่ยว หรือรายปี ถ้าเดินทางบ่อยๆ ทำรายปีไปเลยค่ะ คุ้ม!
2. เลือกจุดหมายปลายทาง พร้อมระบุวันที่เดินทางไป – กลับ และจำนวนผู้เดินทาง หลังจากนั้นระบบก็จะแสดงแผนประกันขึ้นมาให้เราเลือกตามงบของเรา
3. หลังจากเลือกแผนแล้วก็กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว และชำระเงินเรียบร้อย ก็รอรับกรมธรรม์จากทาง AXA ที่จะส่งมาให้ทางอีเมลได้เลย

การเดินทางไปไต้หวัน

การเดินทางไปไต้หวันนั้นมีหลายสายการบินให้เลือกเลย ส่วนใหญ่เป็นบินตรงทั้งนั้น เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเองค่ะ ทริปนี้ เราจองการบินไทย เพราะเวลาเดินทางโอเคสำหรับเรา ขาไป บ่ายสอง และขากลับ สองทุ่ม ที่สำคัญคือราคารับได้ค่ะ ประมาณหมื่นนิดๆ นั่งเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เพราะมีทีวีให้ดูตลอดไฟลท์เลย

ที่พักในไทเป

ที่พักในไทเป เราพักที่ Boutech Jiantan Hotel ใกล้ตลาดกลางคืนซื่อหลิน แบบเดินไปได้เลย ที่เลือกที่นี่เพราะมีที่จอดรถให้ฟรีค่ะ แต่อาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนไม่เช่ารถเท่าไร เพราะต้องเดินจากสถานีที่ใกล้ที่สุดอย่าง Jiantan Station ไปประมาณ 850 เมตร แต่ราคาไม่แรงมากค่ะ ประมาณ 2,5xx บาท/คืน ส่วนตัวเราชอบนะ เพราะห้องใหญ่ สะอาด แอร์เย็น แถมเดินไปซื่อหลินได้อีกด้วย

• จองที่พัก Boutech Jiantan Hotel ผ่าน Booking คลิกเลย

ห้องน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำให้ แต่เป็น Automatic Toilet สะดวกเลยทีเดียว

จากที่พักสามารถเดินไป Shilin Night Market ได้เลย มาถึงไต้หวันแล้วยังไง๊ ยังไงก็ต้องแวะไปตลาดกลางคืนนะคะ มีทุกเมือง แทบจะเป็นกิมมิคของไต้หวันเขาเลยล่ะค่ะ ในเมืองไทเปเองก็มีอยู่หลายตลาดเลย แต่ซื่อหลินจะเป็นตลาดที่ใหญ่และดังที่สุดในไทเปแล้วล่ะค่ะ

ขับรถเที่ยวไต้หวัน

ส่วนตัวเราเช่ากับ Chailease Auto Rental เพราะเว็บไซต์ดูง่าย มีราคาบอกชัดเจน และใช้ใบขับขี่สากลแบบอนุสัญญาเจนีวาที่มีอายุ 1 ปี ถ้าจองผ่านเว็บไซต์เขาจะตัดเงินผ่านบัตรเลยนะคะ เราเลยลอง Line ไปคุย ปรากฎว่าจองผ่านไลน์ก็ได้ จองผ่านทางนี้จะได้หมายเลขการจองมา แล้วไปจ่ายตังค์วันที่รับรถเลยค่ะ หรือสามารถจองผ่าน klook ก็ได้นะคะ เขารวบรวมร้านเช่ารถที่ไต้หวันมาให้หมดแล้ว เว็บเป็นภาษาไทยด้วย คลิกที่นี่เลย

เราเลือกรับรถที่ Taipei Main Station ส่วนวิธีการรับรถก็เหมือนกับที่ญี่ปุ่นเลย มีการตรวจเช็คสภาพ พร้อมแนะนำวิธีการใช้รถ เพียงแต่ Chailease จะไม่มีเคาน์เตอร์ที่ Taipei Main Station ก็เลยต้องนัดเจอกันหน้า Visitor Information Center หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะพาเดินไปรับรถที่ที่จอดรถใกล้ๆ ค่ะ ใช้เวลาไม่นาน ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ขับรถเที่ยวไต้หวัน ไม่ยากค่ะ แต่รถเขาจะขับฝั่งซ้ายนะคะ ใช้เวลาปรับตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวก็จะชินเองค่า

ที่จอดรถในไต้หวันจะคล้ายๆ กับที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ คือมีที่จอดรถอัตโนมัติแบบนี้ สามารถเอารถเข้าไปจอดได้เลย เขาจะสแกนเลขทะเบียนรถเราไว้ตอนเข้า พอจะเอารถออกก็เดินไปที่ตู้จ่ายตังค์อัตโนมัติ กดเลขทะเบียนรถของเราแล้วจ่ายตังค์ตามราคาที่ตู้แจ้งค่ะ

แต่บางที่จะมีคอยน์มาให้ตอนขับรถเข้าไปในลานจอดด้วย เราต้องเก็บคอยน์นี้ไว้ แล้วเอาไปหยอดตู้ตอนจ่ายตังค์ บางแหล่งท่องเที่ยวก็จะมีที่จอดรถให้ฟรีนะคะ หลากหลายมาก สามารถหาพิกัดที่จอดรถใน Google Map ก่อนได้เลย จะมีระบุไว้ให้ในแผนที่เลยค่า

รับรถเรียบร้อย! เราขับรถไปเที่ยวที่แรกกันดีกว่า Zhengbin Fishing Harbor ท่าเรือประมงที่มีตึกสีสันสดใสแห่งเมืองจีหลง (Keelung) เอาเป็นว่าใครทำแผนเที่ยวไต้หวันช่วงนี้ ยังไงก็ต้องเห็นที่นี่ผ่านตาแน่นอน เพราะกำลังฮ็อตเลย เฮ้ย มันโซคิวท์มากจริงๆ ขับรถจากไทเปไปประมาณเกือบๆ ชั่วโมงเท่านั้นเอง

ถ้าใครขับรถมา สามารถเอารถมาจอดตรงที่จอดรถใกล้ๆ ได้นะคะ ไม่เสียตังค์ เดินมาอีกนิดหน่อยก็จะมาถึงจุดที่เขามาถ่ายรูปเช็กอินกันแล้วค่ะ

ตึกสีสันสดใสที่เราเห็น ส่วนใหญ่จะเป็นคาเฟ่ค่ะ ถ้าถ่ายรูปเสร็จแล้วก็แนะนำให้เดินข้ามมาแวะกินชานมไข่มุกกันด้วยแนะนำร้านนี้เลย Yuciren EggWaffle มีทั้งชา กาแฟ และวาฟเฟิลไข่ หอม อร่อยมากเลยล่ะค่ะ

พิกัด Zhengbin Fishing Harbor

จาก Zhengbin Fishing Harbor ขับรถไปอีกนิดจะถึง Wanghaixiang เป็นอีกท่าเรือเล็กๆ ที่คนไต้หวันเขามานั่งตกปลากัน ตรงนี้มีสะพานที่เป็นจุดชมวิว และจุดเช็คอินซึ่งสามารถแชะภาพสวยๆ ได้ด้วยค่ะ จากสะพานตรงนี้ มองไปไกลๆ จะเห็นเมืองจิ่วเฟิ่น และเส้นทางปั่นจักรยาน Shen’ao Rail Bike (ทางขวาของภาพ) ด้วย ถ้าใครมีเวลาก็แวะไปปั่นได้นะคะ เป็นเส้นทางปั่นจักรยานที่วิวสวยน่าดูเลย

พิกัด Wanghaixiang Fishing Harbor

ไต้หวันนี่เป็นประเทศที่มีท่าเรือเยอะจริงๆ ค่ะ ถ้าใครชอบบรรยากาศชิคๆ ชิลๆ เราแนะนำอีกหนึ่งท่าเรือของไต้หวันอย่าง Tamsui เดินทางจากไทเปมาประมาณหนึ่งชั่วโมง แถวนี้มีร้านน้ำแข็งไสหลายร้านเลย เหมาะกับอากาศช่วงซัมเมอร์แบบนี้ที่ซู้ดดด

เราก็มาเพื่อมากินน้ำแข็งไสที่ร้าน 朝日夫婦 โดยเฉพาะเลย เพราะดังมากในไอจี มีน้ำแข็งไสให้เลือกหลายเมนูเลยค่ะ เราเลือกมัทฉะ จะเป็นโฟมครีมราดมาบนน้ำแข็งไส ด้านในจะมีพวกท็อปปิ้ง ถั่วดำ และโมจิ ราดนมอร่อยมากๆ ถ้าจะนั่งกินที่ร้านต้องสั่งคนละ 1 เมนูนะคะ เลยสั่ง Tiramisu Crepe มาอีกหนึ่งอย่าง อร่อยมากๆๆ เป็นครีมกาแฟ ท็อปอยู่บนไอศกรีม และคอนเฟลก อร่อยแบบตะโกนนน!

พิกัดร้านน้ำแข็งใส 朝日夫婦

จุดต่อไปนี่บังเอิญขับรถผ่านแล้วเห็นว่าสวยเลยแวะค่ะ มาลองค้นข้อมูลดูทีหลังถึงรู้ว่าที่นี่คือ Shimendong beach เป็นชายหาดที่คนไต้หวันนิยมมาเที่ยวกันเยอะเหมือนกันนะ ไฮไลท์ก็คือ ช่องผาหินที่มองทะลุไปเห็นทะเลได้แบบนี้ สวยดี รู้สึกเหมือนไม่ใช่ไต้หวันเลย มุมนี้อยู่ไม่ไกลจากป้ายรถเมล์ริมทะเล Tioashi ที่คนไทยชอบไปถ่ายรูปกันนะคะ

จุดถ่ายรูปสะพานโค้งดูสวยแปลกตามาก

พิกัด Shimendong

ทริปนี้ อีกหนึ่งความตั้งใจคืออยากไปนอน “จิ่วเฟิ่น” สักคืน เพราะเราเคยไปเที่ยวแบบ One Day Trip จากไทเปแล้ว รู้สึกยังไม่เต็มอิ่มเท่าไร บวกกับเจอที่พักที่วิวอลังการอย่าง Daybreak ด้วยค่ะ วิวสวยมากกกก สามารถเดินไป Jiufen Old Street ได้เลยนะ เรารีวิวไว้เป็นคลิปวิดีโอแล้ว Click

• สนใจจองที่พัก Daybreak ผ่าน Booking คลิกเลย

จิ่วเฟิ่นตอนกลางคืน บรรยากาศก็จะประมาณนี้ มานอนค้างคืนก็จะดีอย่างคือไม่ต้องรีบกลับไทเป เอ้อละเหยถ่ายรูปได้แบบชิลๆ เลยค่ะ

Jiufen Old Street ช่วงประมาณ 1-2 ทุ่ม ไม่ค่อยมีคนแล้วค่ะ แต่ตรงมุมแลนด์มาร์คอย่างร้านน้ำชา คนยังแน่นแบบแทรกตัวเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้เลย มาสองครั้งแล้วก็ยังไม่มีรูปคู่กับมุมฮิตสักที 555

พิกัดโรงแรม Daybreak

จากจิ่วเฟิ่น ขับรถไปอีกประมาณ 10 นาที จะถึง Houtong Cat Village หรือหมู่บ้านแมวที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ถ้ามาช่วงหน้าหนาวคงอากาศดีเลย แต่เรามาช่วงซัมเมอร์แบบนี้ ก็แดดร้อนแบบแผดเผาไปเลยสิคะ แต่ที่นี่บรรยากาศดีมากนะ ชุ่มชื่น เขียวชอุ่ม มีลำธารด้วย ถ้ามาช่วงปลายปี อากาศดีๆ คงชิลน่าดูเลย

เราไม่แน่ใจว่าที่นี่มีแมวอยู่ประมาณกี่ตัว แต่ก็สามารถเจอน้องได้ตลอดทางของหมู่บ้านเลยนะคะ ส่วนใหญ่น้องจะหลบแดดอยู่ในที่ร่ม ก็นะ อย่าว่าแต่แมวร้อนเลย คนก็ร้อน มาไต้หวันช่วงหน้าร้อนนี่เตรียมหมวก เตรียมพัดลมพก และทากันแดดมาให้พร้อมน้า กลับมาถึงไทยนี่รู้สึกดำเหมือนไปเที่ยวทะเลมาเลยทีเดียวววว

นอกจากน้องแมวที่นอนหลบมุมอยู่ตามทางในหมู่บ้านแล้ว Houtong Cat Village ยังมีคาเฟ่ และร้านอาหารอยู่หลายร้านเลยน้า แอบส่องเข้าไปเหมือนในร้านก็มีแมวเหมือนกัน เราว่าคนรักแมวทั้งหลายน่าจะชอบที่นี่มากเลยทีเดียว ถ้าใครแพลนมาเที่ยวจิ่วเฟิ่น แวะมาหมู่บ้านแมวได้นะคะ เพราะอยู่ห่างจากกันไม่ไกลเลย

ลำธารด้านล่างวิวสวยมากเลยนะ แต่อากาศร้อนมาก ถ้าได้มาหน้าหนาวก็คงดี 555

เดินเล่นเสร็จแล้วแวะกินน้ำแข็งใสดับร้อนสักหน่อย ที่นี่มีร้านน้ำแข็งใสเยอะมาก

พิกัด Houtong Cat Village

จากหมู่บ้านแมว เรานั่งรถไฟจากสถานี Houtong มาลงที่สถานี Dahua เพื่อแวะมาคาเฟ่น่ารัก มู้ดอบอุ่น ชื่อ 與路 Yu Lu Café ใช้เวลานั่งรถไฟมาประมาณ 10 นาทีเท่านั้นค่ะ บรรยากาศในร้านก็น่ารักมากๆ ค่ะ ฟีลเหมือนมานั่งกินกาแฟบ้านเพื่อนที่เป็นคนไต้หวัน เจ้าของร้านก็น่ารัก เราว่าถ้ามาช่วงปลายปี อากาศเย็นๆ คงฟินน่าดูเลย

เมนูดังของร้านนี้คือ Tiramisu เห็นในไอจี ใครมาร้านนี้ก็ต้องสั่งทุกคน คอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงค่ะ

ความเก๋ของคาเฟ่นี้ก็คือ มีรถไฟวิ่งผ่านระหว่างนั่งจิบกาแฟเลย

ใครแวะมาเที่ยวหมู่บ้านแมว เผื่อเวลานั่งรถไฟแวะมาจิบกาแฟชิลๆ ได้นะคะ ในกลุ่มอินฟลูฯ คนไต้หวัน ร้านนี้ดังพอตัวเลยล่ะค่า

พิกัด 與路 Yu Lu Café

เอาล่ะ ขับรถเที่ยวจนทั่วเมืองซินเป่ย์ หรือ New Taipei แล้ว ขอพาหนีร้อนไปสัมผัสอากาศเย็นๆ บนเขาที่ Taipingshan National Forest บ้าง ขับรถเที่ยวไต้หวัน ทริปนี้ เพื่อตั้งใจมาเที่ยวที่นี่โดยเฉพาะเลยค่ะ ที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติที่อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ตอนเรามาถึงอุณหภูมิประมาณ 24 องศา แต่พอช่วงเย็นๆ หลังจากฝนตก อุณหภูมิลดไปถึง 17 องศา แทบจะไม่อยากกลับลงไปกันเลยทีเดียววว

ภายในอุทยานมีเส้นทางเดินเทรลหลายเส้นทางเลยนะคะ แต่เราตั้งใจมานั่ง Bong Bong Train หรือรถไฟสีเหลืองสดใสที่จะพาเราเดินทางเข้าไปในป่า ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของไท่ผิงซานเลยล่ะค่ะ

รถไฟจะพาเรามาจอดตรงสถานีกลางป่า เพื่อให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามในป่าดึกดำบรรพ์แห่งนี้ ต้นไม้ในป่าไท่ผิงซานนี่มีอายุเป็นพันๆ ปีเลยนะคะ เวลาหมอกลงนี่สวยมากๆ เลย

ดูรีวิวไท่ผิงซานฉบับเต็ม : นั่งรถไฟเข้าป่าดึกดำบรรพ์ไท่ผิงซาน (Taipingshan National Forest)

พิกัด Bong Bong Train Taipingshan Station

เที่ยวไท่ผิงซานเสร็จ (นอนที่เมือง Luodong 1 คืน) เราก็ขับรถยิงยาววว กลับไทเป ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เพื่อมาเก็บตกจุดเช็คอินใหม่ๆ ในไทเปค่ะ ด้วยความที่เคยมาไทเป 2 รอบแล้ว รอบนี้ก็เลยไม่ค่อยได้แพลนอยู่ในไทเปนานเท่าไร แวะไปแค่จุดถ่ายรูปตึก Taipei 101 ที่ Bishan camping area 碧山露營場 ซึ่งสามารถมองเห็นเมืองไทเปได้ทั้งเมืองเลย ตรงนี้เป็นจุดที่คนไต้หวันเขามาแคมป์ปิ้งกันด้วยค่ะ วิวสวยมากๆ เลย

พิกัด Bishan Camping Area

ที่สุดท้ายก่อนบินกลับไทย แน่นอนว่าต้องแวะไปช็อปปิ้งที่ย่านซีเหมินติงกันสักหน่อย แต่เดินได้ไม่นาน ฝนก็ตกลงมา เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นไทเป คือใครมาไทเปแล้วไม่เจอฝนนี่คงเหมือนมาไม่ถึงไทเปนะคะ ตกได้ตลอดเวลาจริงๆ เลยยย

พิกัดถนนคนเดินซีเหมิน