ใจสั่นที่ “ไต้หวัน” หนึ่งวันบนสวรรค์ที่ “Cingjing Farm”

สำหรับนักเดินทาง เราสามารถกำหนดจุดหมายปลายทางหรือช่วงเวลาในการออกเดินทางของเราได้เสมอ
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยมีนักเดินทางคนไหนสามารถควบคุมได้เลยคือเรื่องของ “ฝน ฟ้า อากาศ”

“ไต้หวัน” เป็นประเทศที่ฝนเทได้ตลอดทั้งปีจริงๆ หลายคนถึงกับบอกว่า “ใครไปไต้หวันแล้วไม่เจอฝนสักวัน แปลว่ายังไปไม่ถึงไต้หวัน” ทริปไต้หวันครั้งนี้ของเราทั้งหมด 9 วัน ก็เลยเจอฝน เจอหมอกไปซะ 6-7 วัน เหลือแค่ไม่กี่วันเท่านั้นที่ท้องฟ้าเปิดโอกาสให้นักเดินทางอย่างเราได้สัมผัสแสงแดดกับเขาบ้าง โชคดีที่หนึ่งในวันอากาศดีคือวันที่เราเลือกเดินทางไป “Cingjing Farm” และโชคดีแบบคูณสองจนแอบรู้สึกกลัวว่า “สงสัยเราจะใช้โควต้าโชคดีของปีหน้าทั้งปีหมดไปซะวันนี้แล้วละมั้ง” เพราะวันนั้นที่ Cingjing Farm หมอกลงสวยมากกกกก เป็นท้องฟ้าแบบ “ฟ้าหลังฝน” อย่างแท้จริง อากาศช่วงกลางวันเย็นสบาย แต่กลางคืนหนาวมาก เพราะหิมะแรกเริ่มตกบนภูเขา Hehuanshan แล้ว ,, “Cingjing Farm” สำหรับเราในวันนั้นจึงมีบรรยากาศคล้ายสวรรค์ .. . อย่าเพิ่งหาว่าเราโอเวอร์นะ ถ้าจะบอกว่าทริปนี้จะขอพาไปเดินเล่นบนสวรรค์สักวัน ทำอย่างไรได้ล่ะ ก็ประเทศไต้หวัน ทำเราใจสั่นซะขนาดนี้ .. นี่ละมั้ง โมเมนต์ที่เขาเรียกกันว่า “ถูกที่ ถูกเวลา” : )

❤️ Cingjing Farm (清境農場) หรือ ฟาร์มแกะชิงจิ้ง ตั้งอยู่ในเมืองหนานโถว ระแวกเดียวกับอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของไต้หวันอย่าง Sun Moon Lake นั่นเลย ฉะนั้นหลายคนจึงนิยมจัดแผนเที่ยวจากไทเปไปเที่ยว Sun Moon Lake ก่อน 1 วัน แล้วค่อยเดินทางไป Cingjing Farm ต่อ หรือจะสลับแผนกันโดยไปชิงจิ้งฟาร์มก่อนก็ได้ เพราะการเดินทางนั้นไม่แตกต่างกันเท่าไร

❤️ Cingjing Farm ได้ชื่อว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แดนไต้หวัน” ด้วยลักษณะภูมิทัศน์ที่คล้ายประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีผิด เพราะบ้านเรือนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในหุบเขา การเดินทางจึงต้องนั่งรถบัสขึ้นไปลูกเดียว ใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง (อ่านวิธีการเดินทางอย่างละเอียดได้ในด้านล่างนะ) วิวระหว่างทางสวยมากกกกกกกกก ไม่อยากให้หลับเลย สำหรับคนรักธรรมชาติอาจจะรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียว ^^

❤️ ถ้าจะให้อธิบายภาพรวมของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ให้เข้าใจก็อยากให้นึกถึงภาพ “เขาค้อ” ของบ้านเรา เพราะ Cingjing Farm ไม่ใช่ชื่อที่นักท่องเที่ยวเรียกถึง “ฟาร์มแกะ” เพียงอย่างเดียว แต่ “ฟาร์มแกะ Green Green Grasslands” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตนี้ต่างหาก ข้างบนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างเช่น “Cingjing Skywalk” และ “Small Swiss Garden” รวมถึงที่พักน่ารักมากมายเรียงรายอยู่ตลอดเส้นทาง คล้ายๆ เขาค้อของเมืองไทยเลย ฉะนั้นใครที่คิดจะมาเที่ยว Cingjing Farm แบบ One Day Trip เราไม่ค่อยอยากแนะนำแฮะ เพราะเสียดายช่วงเวลาที่จะได้ซัมซับบรรยากาศดีๆ หาที่พักน่ารักนอนพักสักคืนดีกว่า ข้างบนมีที่พักให้เลือกเยอะแยะมากมายเลย เดี๋ยวเอาไว้จะมารีวิวที่พักที่เราไปพักมาแบบละเอียดให้อ่านในบทความหน้านะ : )

ทริปนี้เราเดินทางจาก Sun Moon Lake เพราะแวะนอนที่นั่นก่อนหนึ่งคืน แล้วเดินทางไป Cingjing Farm ด้วย ​Shuttle Bus ของ KKDay จองผ่านเว็บไซต์ KKDay.com เพราะอยากยิงยาวไปที่ Cingjing Farm เลย เนื่องจากถ้านั่งรถบัสจะต้องไปเปลี่ยนรถที่ Puli ก่อน แต่ราคาก็จะค่อนข้างสูง ตกคนละ 471 NT$ ในขณะที่นั่งรถบัสราคาแค่คนละ 179 NT$ (สามารถใช้ Easy Card จ่ายได้) ฉะนั้นถ้าอยากประหยัดให้เลือกใช้บริการรถบัสนะ ส่วนข้อดีของการจอง Shuttle Bus ก็คือ ถึง Cingjing Farm เร็วกว่า เลือกเวลาออกจาก Sun Moon Lake ได้ 2 เวลา คือ 11.00 น. หรือ 16.30 น. ถ้าเลือกรอบ 11 โมง ก็จะไปถึง Cingjing Farm ประมาณเที่ยง ส่วนรถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบสองชั่วโมง รวมเวลาเปลี่ยนรถที่ Puli ด้วยนา

อย่างที่บอกว่าชิงจิ้งฟาร์มไม่ได้มีแต่ฟาร์มแกะอย่างเดียว แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น รวมถึงที่พักน่ารักเรียงรายมากมาย ทริปนี้เราไม่ได้แวะเข้าไปเที่ยวใน Small Swiss Garden แต่เดินไปถึงด้านหน้า เพราะกว่าจะเดินผ่าน Cingjing Skywalk ไปถึงก็เย็นย่ำแล้ว ตอนนั้นหมอกเริ่มลงหนามากด้วย ก็เลยต้องรีบหาทางลี้กลับที่พักด่วน ฉะนั้นในทริปนี้จะไม่มีรีวิวของ Small Swiss Garden นะ ส่วนบรรยากาศของสถานที่อื่นๆ จะเป็นยังไงบ้าง ตามไปเที่ยวด้วยกันเลย! : )

ใครเคยเห็นภาพจำของ Cingjing Farm เป็นแกะกำลังแทะเล็มหญ้าอยู่ตามหุบเขาที่มีบรรยากาศคล้ายประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่นั่นก็คือ “Green Green Grasslands” นั่นเอง ซึ่งฟาร์มแกะแห่งนี้จะตั้งอยู่ด้านบนสุดเลยจากเส้นทางของรถบัส โชคดีที่เราเลือกพักที่ The Cotswolds Villa ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ Green Green Grasslands พอดี จึงสามารถเดินมาจากที่พักได้เลย (ที่พักดีมากกก เดี๋ยวจะมารีวิวอย่างละเอียดอีกครั้งนะ ^^)

ที่นี่เสียค่าเข้าคนละ 160 NT$ ด้านในเป็นฟาร์มแกะที่มีบรรยากาศคล้ายประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เราเลยเรียกว่า สวิตซีแลนด์ (สวิตเซอร์แลนด์ + นิวซีแลนด์) ซะเลย เพราะมีทั้งแกะ และหุบเขา ; p

ด้านในค่อนข้างกว้างขวางเลยทีเดียว มีแกะที่กำลังกินหญ้าอยู่ตามแนวหุบเขา ตัวอ้วนปุกปุยมาก แต่ขนไม่ค่อยขาวแฮะ เดินต่อไปอีกไม่ไกลจะเป็นจุดที่สามารถให้อาหารแกะได้ มีตู้ขายอาหารแกะอัตโนมัติแบบโบราณเพราะตู้เก่ามากกก เหมือนตู้ขายทิชชู่ตามหน้าห้องน้ำ ใส่เหรียญเข้าไปแล้วอาหารก็จะหล่นลงมา ค่าอาหารแกะแค่ 10 NT$ เท่านั้น เป็นหญ้าอัดเม็ดค่ะ ปริมาณเยอะอยู่เหมือนกัน ถ้าอยากเรียกแกะให้มาหาเพื่อเป็นพร็อบถ่ายรูปก็แค่เดินเข้าไปใกล้ๆ ฝูงแกะที่กำลังเล็มหญ้าอยู่ แล้วก็เขย่ากล่องดังๆ แกะก็เริ่มให้ความสนใจและหันมาหาเราเอง 555

แต่น้องแกะที่นี่ค่อนข้างหิวโหยนะ นางมีความทะเยอทะยานสูงมากในการแย่งอาหาร ถ้าเราหยิบออกมาให้ช้าไม่ทันใจ นางก็จะเอามือมาสะกิดๆ เท่านั้นไม่พอ ยังดันแกะตัวอื่นๆ ให้หลีกทางออกไปอีกต่างหาก ที่สำคัญ ถ้าไม่มีอาหารอย่าหวังจะได้ดีลกันนะจ๊ะ เพราะถ้าเอามือไปแตะหัวหรือตัวปุ๊บ นางจะยุติการดีลกับเราทันที คือให้อาหารได้ แต่ห้ามมาแตะต้องตัวชั้นย่ะ พวกมนุษย์ ; p

เดินต่อไปอีกไม่ไกลก็จะถึง Cingjing Skywalk ซึ่งตรงนั้นจะมีทางเข้า – ออกเล็กๆ อีกทาง สามารถปั๊มมือไว้เพื่อกลับเข้ามาอีกได้

ออกมาก็จะเป็นศูนย์อาหาร ซึ่ง .. มีแต่ภาษาจีนล้วนเลยจ้า แต่เราก็เลือกฝากท้องมื้อกลางวันไว้ที่นี่ เพราะเป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสอาหาร Local โดยแท้ วิธีการสั่งก็ไม่ยาก เดินไปหยุดหน้าร้านที่สนใจ แล้วก็ .. ชี้เลยจ้า ; p เราเลือกร้านที่มีอาหารใส่ถาดไว้ให้เลือกแล้ว จะได้ไม่เสี่ยงจิ้มผิดเมนู ก็เลยได้ผัดหมี่สไตล์ไต้หวั๊น ไต้หวัน มากิน รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว (เพราะหิว 555) แต่แอบจืดไปนีสสส

เอาละ .. อิ่มท้องแล้ว ก็ได้เวลาไปเดินเล่นบนสวรรค์กันแล้วละ : )

อันที่จริงแล้ว Cingjing Skywalk นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสด ใหม่ ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ฉะนั้นจึงได้รับความสนใจจากฝูงชนชาวไต้หวันค่อนข้างมากทีเดียว ที่นี่เป็นเส้นทางเดินที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,700 เมตร ด้วยระยะทางทั้งหมด 1.2 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินจนจบเส้นทาง หรือจะเข้าไปถ่ายรูปเล่นเฉยๆ ก็ได้ เพราะเสียค่าเข้าแค่ 50 NT$ แล้วถ้าเดินเต็มเส้นทางจะต้องใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง หรือมากกว่า แล้วแต่ว่าจะหยุดถ่ายรูปนานแค่ไหนค่ะ

สำหรับเราที่เป็นสายเดินแล้ว แน่นอนว่าต้องเดินเต็มเส้นทาง เพราะวิว ณ ช่วงเวลานั้นสวยมากกกกกกกกกกก ระหว่างทางเต็มไปด้วยหมอกที่ลอยต่ำผ่านหุบเขาไปเรื่อยๆ นับเป็น “ฟ้าหลังฝน” ค่ะ เพราะตอนแวะกินข้าวที่ศูนย์อาหารนั้นมีฝนโปรยลงมาเล็กน้อย ข้อเสียของการเที่ยวช่วงเปลี่ยนฤดูก็คือฝนฟ้าที่ตั้งเค้าพร้อมจะตกอยู่ตลอดเวลา แต่คงจะเหมือนกับที่ใครหลายคนบอกว่า “มีร้ายย่อมมีดี” เพราะท้องฟ้าหลังฝนโปรยปรายดลให้บรรยากาศของ Cingjing Skywalk ตอนนั้นคล้ายเส้นทางเดินบนสรวงสวรรค์ไม่มีผิด รู้สึกได้จริงๆ ว่าตัวเองตอนนั้น “อยู่ถูกที่ ถูกเวลา” ทำให้ระยะทาง 1.2 กิโลเมตรสำหรับเรากลายเป็นเส้นทางที่สั้นไปเลย รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองมาหยุดอยู่ที่หน้าทางออกของ Cingjing Skywalk ซะแล้ว .. . เป็นอีกหนึ่งวันที่จะจำไปอีกนาน ว่าความรู้สึกระหว่างเดินเล่นอยู่บน “Heaven on earth” มันเป็นอย่างนี้นี่เอง : )

แล้วจะรีบมารีวิวที่พัก The Cotswolds Villa นะ เราว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับทริป Cingjing Farm เลย ^^