แชร์พิกัด กิน เที่ยว พัก ที่ “ปูซาน” เมืองริมทะเลสุดชิลของเกาหลีใต้

พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิลของประเทศเกาหลี นาทีนี้ต้องยกให้ “ปูซาน” เลยค่ะ เพราะกำลังได้รับความนิยมจากนักเดินทางทั่วโลกเลย โดยปูซานนั้นเป็นเมืองทางใต้นะคะ เดินทางง่ายกว่าที่คิดเพราะมีไฟลท์บินจากไทยไปลงที่ปูซานให้เลือกหลายสายการบิน หรือถ้าอยากเที่ยวเกาหลีแบบจุใจ จะนั่งเครื่องไปลงที่กรุงโซล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ แล้วค่อยนั่งรถไฟความเร็วสูง KTX ไปลงปูซานก็ได้ ใช้เวลาเดินทางจากโซลประมาณ 3 ชั่วโมง เท่านั้นเอง

ส่วนตัวเราเดินทางด้วยสายการบิน Vietnam Airlines จากประเทศไทยไปลงที่ “ปูซาน” เลย เพราะราคาน่ารักจริงๆ ประมาณหมื่นต้นๆ เท่านั้น เพียงแต่จะต้องแวะไปเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศเวียดนามก่อน แต่ใช้เวลาในการรอเปลี่ยนเครื่องไม่นานมากค่ะ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ถือว่าโอเคเลยเมื่อเทียบกับราคาที่ได้มา

สถานที่ท่องเที่ยวใน “ปูซาน” มีความหลากหลายมาก ถึงแม้จะเป็นเมืองริมทะเล แต่ปูซานเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยนะคะ ในฐานะคนเมืองร้อนอย่างเรา ได้ลองไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ที่ปูซานแล้วบอกได้เลยว่าไวบ์แตกต่างจากทะเลเมืองไทยเลยล่ะค่ะ ทริปนี้ เราแพลนไปเที่ยวมา 5 วัน 4 คืน ยังรู้สึกว่าเที่ยวไม่ทั่ว อยากกลับไปเที่ยวซ้ำอีกครั้งเลยค่ะ เอาล่ะ .. เดี๋ยวโพสนี้เราจะมาแชร์พิกัด กิน เที่ยว พัก ที่ปูซานให้น้า : )

จะบอกว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองปูซานเลยก็ว่าได้สำหรับ Haeundae Sky Capsule หรือรถไฟปุ๊กปิ๊กนั่นเอง โดยHaeundae Blueline Park นั้นมีรถไฟให้เลือกนั่งชมวิวสองแบบ คือ Sky Capsule วิ่งรางบน ส่วนรางข้างล่างจะเป็น Beach Train ใช้เส้นทางเดียวกันเลยค่ะ เลียบทะเลเหมือนกัน เขามีขายเป็นแพ็คเกจคู่ด้วยนะ คือ Sky Capsule ขาไป ส่วนขากลับก็นั่ง Beach Train หรือจะนั่งรถไฟแบบเดียว ไป-กลับ หรือนั่งแค่ขาเดียวก็ได้ แล้วแต่เราเลยค่ะ

Sky Capsule จะวิ่งไป – กลับ สองสถานี คือ Mipo Station และ Cheongsapo Station ถ้าใครจะนั่งขาเดียว เราสามารถเลือกได้นะคะว่าจะนั่งจากสถานีไหน ถ้ามาถึงที่สถานี Cheongsapo แล้วมีมุมฮิตที่ต้องมาถ่ายรูปรถไฟริมทะเลแบบนี้ อย่าลืมแวะออกมาถ่ายรูปมุมนี้กันด้วยน้า

มีเคล็ดลับเล็กน้อย สำหรับคนที่อยากถ่ายรูป Sunset บน Sky Capsule แนะนำให้เลือกรอบ 17:30 – 18:00 และให้เลือกนั่งจากสถานี Cheongsapo ไปลง Mipo รถไฟจะวิ่งไปทางที่พระอาทิตย์ตกพอดีค่ะ

มาถึงปูซานแล้ว ยังไง๊ยังไงก็ต้องแวะมาเช็คอินที่นี่นะคะ “Gamcheon Culture Village” หรือหมู่บ้านสีลูกกวาด ฉายาซานโตรินีแห่งเกาหลีนั่นเอง เห็นบ้านเรือนสีหวานๆ แบบนี้ ที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านอพยพมาก่อนนะคะ หลังถูกทิ้งร้างมาสักพัก ก็ได้มีการรวมพลังจากศิลปินหลากหลายคนมาช่วยกันแต่งเติมสีสันหลากหลายให้กับหมู่บ้านแห่งนี้ จนปัจจุบันได้กลายมาเป็นจุดเช็คอินแลนด์มาร์คของปูซานที่ใครไม่แวะมาก็คงต้องบอกว่ามาไม่ถึงปูซานล่ะค่า

ภายในหมู่บ้านมีหลายจุดให้แวะถ่ายรูป มีร้านค้าเรียงราย รวมไปถึงคาเฟ่ ร้านอาหารมากมายเลยล่ะค่ะ แต่อาจจะต้องเตรียมกำลังขามาให้ดีๆ ด้วยน้า เพราะจะต้องเดินขึ้นลงเนินกันนิดนึงค่ะส่วนมุมที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูป เจ้าชายน้อยนั่นเอง เราว่าที่นี่เป็นที่ที่เดินเล่นเพลินมากๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Gamcheon Culture Village ถึงเป็นจุดเช็คอินแลนด์มาร์คที่คนมาปูซานต้องแวะมาเช็คอิน!

ขอพาแวะมาเช็คอินที่พักกันสักแปบ เพราะที่พักปูซานของเราในทริปนี้อยู่ใกล้ๆ Gamcheon Culture Village เลยค่ะ นั่งรถเมล์แค่แปบเดียวเท่านั้นเอง โดยทริปนี้เราพักกันที่ Nampo Ocean 2 Heaven Hotel&Spa ตั้งอยู่ย่านนัมโพ ซึ่งถือว่าทำเลดีสำหรับเรามากค่ะ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน / ป้ายรถเมล์ แถมบรรยากาศเงียบสงบ ห้องกว้าง ออกแบบสวย ที่สำคัญเตียงนอนยังนุ่มดูดวิญญาณสุดๆ ไปเลยล่ะค่า

สำหรับราคาที่พักนั้น เราจองผ่าน agoda ประมาณ 2,3xx บาท/คืน เท่านั้นค่ะ ราคาอาจจะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาที่เดินทางนะคะ แต่ถ้าใครมีแพลนเดินทางไปเที่ยวปูซานในช่วงนี้ แนะนำให้จองที่พักผ่าน agoda เลยค่ะ เพราะจะได้รับส่วนลดเพิ่ม 5% เลย! เนื่องจากตอนนี้ เขามีแคมเปญร่วมกับทาง Visit Busan อยู่ค่ะ ฉะนั้นอาจจะได้ราคาดีกว่าที่เราจองก็ได้ รีบจัดให้เลยค่า

ห้องน้ำดีมาก เป็น Smart Toilet แถมยังมีอ่างอาบน้ำให้อีกด้วย

มีโต๊ะทำงานให้ด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเกินราคาเลย

พาไปเที่ยวต่อกันที่อีกหนึ่งหมู่บ้านที่เราชอบมากกก “Huinnyeoul Culture Village” นั่นเอง ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลที่ vibe ดีมากกก ฟีลลิ่งปูซานสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ ที่สำคัญคือมีมุมถ่ายรูปเยอะมาก เราชอบระบบการจัดการพื้นที่ของที่นี่ เพราะเขาแบ่งมุมท่องเที่ยวเป็นจุดๆ พร้อมมีแผนที่ให้ดูเลยค่ะ ออกแบบได้ดีมากๆ เลย

มาถึงที่นี่แล้ว แนะนำให้เดินเล่นให้ครบรูทเลยนะคะ เพราะเขาจะออกแบบพื้นที่ท่องเที่ยวขนานกันเป็นสองจุดคือ หมู่บ้านบนเนินเขา มีพวกร้านอาหาร / คาเฟ่ และร้านช้อปปิ้งให้เราได้เพลิดเพลินอยู่หลายร้าน พอเดินไปจนสุดทางหมู่บ้าน ก็จะมีบันไดสำหรับลงไปเดินเล่นเลียบทะเลได้ มาที่เดียวแต่ได้สองบรรยากาศเลย!

สุดทางของหมู่บ้านจะมีมุมถ่ายรูปยอดฮิตในไอจีอยู่นะคะ เป็นอุโมงค์ที่มองลอดออกไปเห็นวิวทะเลปูซาน แน่นอนว่ามุมฮิตแบบนี้ก็ต้องต่อคิวถ่ายรูปกันนิดนึงเนาะ ยิ่งถ้าใครมาช่วงเย็นๆ เพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์ตกเหมือนเราแบบนี้ จะมีคู่รักเกาหลีมาตั้งกล้องถ่ายรูปกันหลายคู่เลยล่ะค่ะ แต่ทุกคนดีมาก ต่อคิว ไม่มีใครแซงใคร แต่พอถึงคิวก็ต้องรีบแชะ! เอาจริงๆ ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นมุมฮิต ก็เพราะมันถ่ายรูปออกมาได้สวยจริงๆ อ่ะเน้ออ : )

มาถึงปูซาน ไม่มาเช็คอินที่นี่คงไม่ได้ “Gwangalli Beach” นั่นเองค่ะ จะบอกว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของปูซานเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นชายหาดที่ได้ฟีลลิ่งปูซานสุดๆ ถ่ายรูปออกมายังไงก็ดูมินิมอล เกาหลี เกาใจ ชายหาดก็ค่อนข้างกว้างเลยน้า แล้วก็คึกคักน่าดูเลย มีคาเฟ่ และร้านอาหารเรียงราย แถมด้วยจุดถ่ายรูปสวยๆ ให้แชะภาพได้อีกหลายมุมเลยล่ะค่า

มาถึง Gwangalli Beach แล้ว อยากแนะนำให้แวะมาฝากท้องกันที่ร้านนี้มากๆ เลยค่ะ “Nasari Sigdang” ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามหาดเลย อาหารอร่อยมากกกก เขามีขายเป็นเซ็ตแบบในภาพเลยนะคะ อูด้งทะเลก็คือจัดหอยมาทั้งทะเลปูซานเลยแม๊ แถมวิวดีมากด้วยค่ะ มองเห็นวิวสะพานควังอัลเลย แนะนำเป็นอย่างยิ่ง!

อย่างที่โม้ไว้ตอนแรกว่า ปูซานเป็นเมืองที่มีที่เที่ยวหลากหลายมากกว่าที่คิด เลยขอพามาเช็คอินกันที่ “Oryukdo Island” เลยค่ะ เพราะช่วงที่เรามาเป็นฤดูกาลใบไม้ผลิที่ดอกไม้กำลังบาน ได้ถ่ายรูปดอกไม้กับวิวทะเล เป็นมุมสวยแปลกตาที่หาไม่ได้ที่เมืองไทยน้า แถมยังมีมุมถ่ายรูปตรงบันไดสวยๆ ที่สามารถมองเห็นหมู่เกาะออยุคโดกลางทะเลปูซานได้ด้วย เป็นอีกที่ในปูซานที่อยากแนะนำให้ลองไปเที่ยวมากๆ เลยล่ะค่า

ขอพาไปส่งท้ายทริป “ปูซาน” สุดชิลทริปนี้ด้วยการนั่งดูพระอาทิตย์ตกสวยๆ ที่ “Haeundae Beach” อีกหนึ่งชายหาดฮิตของปูซานเขาล่ะค่ะ ช่วงเย็นๆ บรรยากาศชิลมากเลยนะ เหมาะสำหรับการมานั่งชิลดูแสงสุดท้ายที่สุดเลย ท้องฟ้าริมทะเลในช่วงฤดูหนาวนี่มันสวย หวาน เกินบรรยายเลยจริงๆ น้า : )

แฮอุนแด ก็เป็นอีกย่านในปูซานที่มีที่พักหลายที่เลยนะคะ ย่านนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบความคึกคัก ชอบเดินเล่นยามค่ำคืน เพราะรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมายเลย ถ้าใครกำลังแพลนทริปไปเที่ยวปูซาน อย่าลืมจองที่พักผ่าน agoda เพื่อรับส่วนลดเพิ่ม 5% ด้วยนะคะ จองตั๋ว จองที่พักเสร็จ ก็เตรียมเก็บกระเป๋าไปลั่นล้าที่ปูซานกันได้เลย