10 Best Things to do in Buriram

10 Best Things to do in Buriram

บุรีรัมย์...ไปทำอะไรดี?

- June, 2018 -

บุรีรัมย์...ไปทำอะไร??

เข้าใจว่าหลายคนน่าจะมีคำถามนี้ละ ถ้ามีคนใกล้ตัวเอ่ยปากชวนไปเยือน “บุรีรัมย์” เมืองที่ถ้าได้มาเห็นด้วยตาในวันนี้ จะไม่เชื่อเลยว่า ครั้งหนึ่งที่นี่เคยได้รับการขนานนามว่า ‘บุรีรัมย์ ตำน้ำกิน’ … นึกออกมะ ว่าที่นี่จะทั้งแห้งทั้งแล้งขนาดไหนในอดีต!

แต่เดี๋ยวก่อนจ้า .. ภาพตัดมายังปัจจุบัน ผิดกันอย่างกับคนละเมือง!! เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่สีเขียวสบายตาที่มาพร้อมกับความอุดมสมบูรณ์ แถมความเจริญและทันสมัยก็เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าเมืองใด สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจก็จัดแพ็กมาแบบวาไรตี้ ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยดีกว่าว่า 10 ที่เที่ยวเมืองบุรีรัมย์ ที่ Movearound Journey หยิบเอามานำเสนอกัน มีที่ไหนกันบ้าง แล้วจะถูกใจคนหลงใหลการ ‘ท่องเที่ยวไทย’ กันแค่ไหน ไปดูเลย!

ส่อง "สนามฟุตบอล ช้าง อารีน่า" สนามฟุตบอลที่ได้ชื่อว่าสวยและทันสมัยที่สุดในเมืองไทย

แว่วๆ มาว่าสำหรับการเป็นสนามฟุตบอลแบบไม่มีลู่วิ่งข้างสนามน่ะ ถือว่าที่นี่มีความจุใหญ่โตกว้างขวางที่สุดในเอเชียด้วยนะ แถมที่เด็ดคือสนามแห่งนี้ได้รับการบันทึกไว้ใน Guinness Book of World Records ด้วยจ้า ว่าเป็นสนามฟุตบอลระดับมาตรฐานฟีฟ่าที่ใช้เวลาในการสร้างน้อยที่สุดในโลก คือแค่ 256 วันเท่านั้น!! สำหรับใครที่เป็นแฟนฟุตบอลของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คงต้องอยากมาเยือนสนามนี้กันให้ได้ซักครั้งอยู่แล้วละ แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่ ขอบอกว่าแวะมาเดินเล่นก็ได้นะ เพราะภายในสนามเขาสวยงามใช่หยอก ถ่ายรูปจากข้างในสนามออกมา ดูเผินๆ นึกว่าอยู่อังกฤษนะเอ้า!!

ด้านนอกสนามมีร้านขายของที่ระลึกของทีมสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่แอบมีไอเท็มส์เด็ดๆ น่ารักๆ วางขายอยู่เยอะเหมือนกันนะ แถมด้านหน้ายังมีโซนพักผ่อนสำหรับให้ชาวบุรีรัมย์มาออกกำลังกายกันได้ในยามเย็น รวมถึงมีตลาดนัดให้เดินเล่น ช้อป ชม ชิล กันด้วย อ้อ ด้านหลังสนามยังมีร้านอาหารเด็ดๆ รวมถึงร้านกาแฟให้นั่งชิลกันอีกหลายร้านเลยนะ เรียกว่ามาเยือนกันได้ทั้งสายลูกหนัง และสายแหลก 555

สัมผัสความเร้าใจที่ "สนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต"

บอกก่อนว่าเราก็ไม่ใช่สายรักความเร็วแต่อย่างใดนะ แต่พอได้มายืนในสนามจริงๆ เฮ้ย! มันก็เจ๋งดีอ่ะ พอได้รู้ว่าที่นี่เป็นสนามแข่งรถแห่งเดียวในโลกที่มีแกรนด์สแตนด์ซึ่งสามารถมองเห็นโค้งทั้งหมด 12 โค้งในสนามได้ครบเป๊ะ แล้วยังเป็นสนามแข่งแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้มาตรฐานระดับโลก ชนิดที่สามารถจัดการแข่งขันรถ F1 ได้สบายๆ ก็ไม่แน่นะว่าในอนาคตเราอาจจะได้ดูการแข่งรถ F1 กันในไทยก็ได้ ใครจะรู้! แต่ตอนนี้ รายการแข่งของสนามนี้ที่ถือว่าใหญ่เบิ้มเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ก็คงหนีไม่พ้นการแข่งชิงแชมป์มอเตอร์ไซค์ทางเรียบอันดับหนึ่งของโลกที่รู้จักกันในนาม Moto GP ที่จะมีการตระเวนแข่งเก็บคะแนนไปตามสนามต่างๆ ทั่วโลก และสนามนี้คือหนึ่งในนั้น! .. และถ้าจะถามว่ารายการนี้มันดังหรือมีคนติดตามขนาดไหน .. เราบอกได้แค่ว่า ทุกเดือนตุลาคมที่มีการจัดการแข่งขันขึ้นในไทย ที่พักเกือบทุกแห่งในบุรีรัมย์จะถูกจองเต็มตั้งแต่ก่อนเดือนมิถุนาเท่านั้นเอ๊งงงง — ถ้าได้มาเยือนบุรีรัมย์ก็ขอแนะนำให้แวะมาเดินเล่นในสนามนี้หน่อยน่า เงินก็ไม่เสีย แถมถ้ามาตรงช่วงซ้อมอย่างที่เรามา ยังได้สัมผัสความเร้าใจกันไปเต็มๆ ฟรีก็ฟรี ดีจะตาย!

เดินเล่นสุดชิลล์ใน "เพ ลา เพลิน"

ถือเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ไม่แวะไม่ได้ เมื่อมาเยือนบุรีรัมย์ เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่แสดงพันธุ์ไม้สวยงามและแปลกๆ หลากหลายสายพันธุ์แล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมทั้งแอดเวนเจอร์และ DIY ให้ได้เลือกทำกันตามความชอบใจอีกเพียบเลย นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่น่ารักๆ ให้นั่งพักจิบกาแฟกินขนมกันเพลินๆ มีของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นที่ออกแบบมาได้เก๋ไก๋หลากหลายให้เลือกช้อปกัน และถ้าใครยังมันไม่เลิกก็นอนค้างได้เลยจ้า เพราะว่าเค้ามีรีสอร์ทในบริเวณเดียวกันนี้ด้วยละ เต็มเหนี่ยวไปเลยนะลูกพี่!!

เวิร์คช็อป "ย้อมผ้าด้วยดินภูเขาไฟ" ที่บ้านเจริญสุข

ผ้าย้อมนี้มีชื่อสุดแสนจะแกรนด์ว่า ‘ผ้าภูอัคนี’ โดยชาวบ้านจะนำดินภูเขาไฟจากเขาอังคารอันศักดิ์สิทธิ์มาเป็นวัตถุดิบหลักในการย้อมสีผ้า สีที่ได้จะเป็นสีออกน้ำตาลแดงเฉพาะตัวของดินจากที่นี่เท่านั้นด้วยนะ แถมยังมีสีย้อมธรรมชาติจากดอกดาวเรืองให้เราเลือกลองกันด้วยละ สีที่ออกมาจะเป็นสีเหลืองสดใสสวยได้อย่างไม่น่าเชื่อว่านี่คือสีธรรมชาติ แต่ถ้าขาช้อปคนไหนไม่อยากมือเลอะจากการย้อมผ้า แนะนำว่าให้ซื้อเลยจ้ะ ผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ๆ น่ะ ผืนละแค่ 80 บาท!! บ้าไปแล้วววว ถูกมากกก อยากเหมา ขาช้อปสายธรรมชาติน่าจะแฮปปี้กับจุดนี้นะ หมู่บ้านนี้มีการเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์เช่นกัน ใครอยากมาคลุกคลีตีโมงศึกษาหาความรู้จากลุงป้าน้าอากันแบบลงลึกละก็ จองเลย! ราคาไม่แพงเด้ออ

เยือน "ปราสาทหินพนมรุ้ง"

หนึ่งในปราสาทเก่าแก่สุดอัศจรรย์ที่เรียกได้ว่าเป็นปราสาทแบบขอมที่มีสภาพสมบูรณ์และสวยที่สุดในประเทศไทย สมัยก่อนที่นี่คือศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ประกอบพิธีสักการะเทพเจ้าสำหรับพระมหากษัตริย์เท่านั้นนะ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความสวยงามละเอียดอ่อนช้อยของฝีมือช่างผู้สร้างสรรค์เขาละ

ไฮไลท์ประจำปีของการมาเยือนปราสาทแห่งนี้คือการไปดูดวงตะวันขึ้นและตกลอดช่องประตูทั้ง 15 ช่องของปราสาทแบบตรงกันเป๊ะ! ถือเป็นความมหัศจรรย์จากฝีมือการสร้างของช่างสมัยก่อน ถ้าอยากมาดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องมาช่วงประมาณวันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายนของทุกปี แต่ถ้าอยากมาสัมผัสบรรยากาศยามเย็นเพื่อดูปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตกละก็ ให้มาช่วงประมาณวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคมของทุกปีนะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง อ้ะ แต่อาจจะต้องเจอกับกองทัพนักท่องเที่ยวซักนิด ก็แหม…ใครๆ ก็อยากเห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์แบบนี้ทั้งนั้นละน่า จริงมั้ย? 

และสำหรับคนยุค 90 ลงไป คงพลาดไม่ได้กับการมาชมทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ สุดยอดงานศิลป์ชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของไทย ที่เคยถูกมือดีโยกย้ายสกัดไปสถิตอยู่ไกลถึงเมืองชิคาโก ประเทศอเมริกา กว่าจะได้กลับคืนมาก็ต้องทวงถามข้ามประเทศกันยืดยาวหลายปี จำได้มั้ยกับวลีที่น้าแอ๊ด คาราบาวแกเคยร้องเป็นเพลงไว้ไง … “เอาไมเคิล แจ๊คสัน คืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา” นั่นน่ะ คุ้นยัง??

เหยียบปากปล่องภูเขาไฟใน "วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง"

หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าบุรีรัมย์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งภูเขาไฟของประเทศไทยเลยนะ หนึ่งในร่องรอยของปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทไปแล้วของเมืองนี้ที่เราสามารถเข้าไปดูได้ในระยะประชิดคือภูเขาไฟกระโดงนี่ละ ภูเขาไฟแห่งนี้มีอายุมายาวนานถึงประมาณระหว่าง 3 แสนถึง 9 แสนปี!!! มีการสร้างสะพานแขวนไว้ให้เราได้เดินไปดูปากปล่องกันได้ชัดๆ จากด้านบน ส่วนยอดของภูเขายังมีองค์พระสุภัทรบพิตรไว้ให้ผู้คนได้กราบไหว้สักการะ และยังเป็นจุดชมวิวตัวเมืองบุรีรัมย์ได้อีกด้วย แม้ว่าจะสามารถขับรถขึ้นไปถึงส่วนยอดได้เลยก็ตาม แต่แนะนำว่าหากใครมั่นใจในกำลังขา ขอให้ลองเดินขึ้นทางบันไดพิสูจน์ความศรัทธาที่มีอยู่ เบาๆ แค่ 297 ขั้นเท่านั้นเอง!! สบ๊ายยยย

ชมจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างจากเมียนมาร์ที่ "วัดเขาอังคาร"

วัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยทวารวดี เพราะมีใบเสมาหินสลักอายุนับพันปีเป็นหลักฐาน เหตุที่ชื่อว่าเขาอังคาร ก็เพราะมีตำนานเกี่ยวเนื่องกับประวัติลายแทงพระธาตุพนม อันเกิดขึ้นกันตั้งแต่ปี พ.ศ.8 (อ่ะ เก่าไม่เก่าบวกกันเอาเองเลย) กล่าวกันว่าหลังจากการถวายพระเพลิงพระบรมศพขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็มีการแจกจ่ายพระอุรังคธาตุ (กระดูกช่วงอกของพระพุทธเจ้า) จากเมืองกุสินาราไปยังเมืองต่างๆ 8 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นนำมาประดิษฐานในองค์พระธาตุพนมบ้านเรานี่ละ แต่มีเมืองหนึ่งไปไม่ทันที่จะขอรับพระอุรังคธาตุกลับมาบูชา ทางโทณพราหมณ์ซึ่งเป็นผู้แจกจ่ายจึงได้ทำการตวงพระอังคาร (ขี้เถ้า) ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยทะนานทองคำ แล้วนำมาให้เจ้าเมืองซึ่งไปสายได้นำกลับมาบูชา ฝ่ายเจ้าเมืองเมื่อนำพระอังคารกลับมา ก็มาพบเข้ากับภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายกับพญาครุฑนอนคว่ำหน้าอยู่ (เมื่อมองจากมุมสูงน่ะนะ) เห็นว่ามีลักษณะดี จึงได้ทำการสร้างสถานที่บรรจุพระอังคารเอาไว้ในบริเวณที่ว่ากันว่าเป็นไหล่ซ้ายของพญาครุฑนั่นเอง

แต่ตัววัดที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เป็นการสร้างใหม่ทับลงไปในสถานที่เดิมที่ผุพังไปตามกาลเวลานะ อย่าได้แปลกใจว่าทำไมถึงดูใหม่เอี่ยมอ่องนัก ด้านในจะมีจุดชมวิวที่จะมองเห็นอีกหนึ่งปากปล่องภูเขาไฟของเมืองบุรีรัมย์ด้วย ที่น่าภูมิใจคือก่อนหน้านี้ ตรงบริเวณปากปล่องนี้น่ะ โดนหักล้างถางป่าจนโล้นแล้งไป แต่ได้พวกชาวบ้านในท้องถิ่นรวมใจกันดูแลป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า จนได้ความเขียวขจีกลับมาอีกครั้ง แถมตรงนี้ยังมีปากปล่องภูเขาไฟซ้อนกันอยู่ถึงสองปล่อง จากการปะทุหลายครั้งหลายครา ถือว่าเป็นจุดพักสายตารับลมเย็นๆ ได้ดีเลยละ ด้านในพระอุโบสถสีสดใส ยังมีจิตรกรรมฝาผนังจากฝีมือช่างชาวเมียนมาร์ที่วาดเอาไว้ตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่มีหลักฐาน รูปแบบศิลปะก็แปลกตา แต่ที่เริ่ดคือนางใส่คำบรรยายพุทธประวัติเป็นภาษาอังกฤษไว้ให้ด้วยละ เก๋มาก ชอบบบ อ้อ สำหรับสายมู เราได้รับคำกระซิบจากชาวบ้านมาว่าใกล้กับจุดชมวิวมีศาลศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมไปบนบาน แล้วก็ว่ากันว่ามักจะได้ตามคำขอกันด้วยนะ จริงไม่จริงลองไปหาดูเองก็แล้วกันเนอะ

ชิม "ขนมตดหมา" ดูผ้าไหม ในหมู่บ้านสนวนนอก

หมู่บ้านเล็กๆ ที่ยังคงใช้วิถีชีวิตตามแบบดั้งเดิม ด้วยการเลี้ยงไหม ทอผ้า และทำการเกษตร ขอบอกว่าความรู้สึกที่ได้จากการมาสัมผัสด้วยตัวเองนั้นแสนจะอิ่มเอม ลุง ป้า น้า อา ตา ยาย ที่นี่ น่ารักมากกกกกก ทั้งการต้อนรับขับสู้และน้ำจิตน้ำใจอันแสนจะอบอุ่นน่ารัก จะเติมพลังบวกและความสดชื่นให้กับเราได้อย่างดี ส่วนขนมตดหมาที่บอกเอาไว้ด้านบนน่ะ ทำจากเถาตดหมา พืชหน้าตาคล้ายหญ้าที่พอป้าๆ เด็ดยื่นให้ .. กลิ่นนี่คือใช่เลยยยยยย สมชื่อเป๊ะ! แต่ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวสนวนนอกนี่ละ จึงนำมาทำเป็นขนมแสนอร่อยให้กินกันได้แบบปลอดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รสชาติขนมก็จะให้อารมณ์คล้ายขนมจาก หอม หวาน มัน กินเพลินเชียว ป้าๆ แอบกระซิบมาว่า ถึงแม้เถาตดหมาจะมีให้กินในหลายท้องถิ่น แต่ส่วนใหญ่เป็นการใช้กินเคียงกับน้ำพริกเป็นหลัก มีแต่ที่บ้านสนวนนอกแห่งนี้ที่เดียวนะที่เอามาทำเป็นขนม อ้ะ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง เด็ดแค่ไหน ขอแนะนำให้แวะมาชิมจ้า ที่นี่มีโฮมสเตย์หลายหลังรอให้บริการอยู่ด้วยนะ ใครอยากมาลองทอผ้า จักสาน หรือทำขนมตดหมา ก็ติดต่อมาพักได้เลย : )

ช้อป ชม ชิลล์ ให้เพลิน ต้องเดิน "เซราะกราว วอล์กกิ้ง สตรีท"

เรียกว่าเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับการไปเยือนจังหวัดต่างๆ ของเมืองไทย เพราะตอนนี้แทบทุกจังหวัดจะมีถนนคนเดินไว้รองรับนักท่องเที่ยวกันชนิดไม่น้อยหน้า ที่เซาะกราว สตรีท แห่งนี้ก็ดีเด็ดไม่แพ้กันนะ เพราะรวบรวมของกินท้องถิ่นเอาไว้หลากหลาย แถมยังมีเสื้อผ้า ของใช้ น่าซื้อหาอีกเพียบ! ใกล้กันยังมีเวทีแสดงศิลปะการแสดงพื้นบ้านให้ความครึกครื้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าใครหิว ก็แวะนั่งกินอาหารชิลล์ๆ ริมสระน้ำใกล้กันได้เลย ขอบอกเลยว่าได้อารมณ์มากกกกก ถนนคนเดินที่นี่มีทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่สี่โมงเย็นจนถึงสี่ทุ่ม แนะนำให้มาแต่หัววันหน่อยนะ เพราะว่าร้านรวงจะทยอยเก็บกันบ้างหลังสามทุ่มไปแล้ว เดี๋ยวช้อปได้ไม่สาแก่ใจไม่รู้นะเอ้าาา

กราบสักการะ "ศาลหลักเมือง" จังหวัดบุรีรัมย์

นับเป็นศาลหลักเมืองเก่าแก่อีกหนึ่งแห่งของประเทศไทย แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่นอนนัก แต่ว่ากันว่าน่าจะมีการสร้างเสาหลักเมืององค์แรกขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ยังทรงดำรงพระยศเป็นพระยาจักรี ได้ยกทัพปราบกบฏเสด็จกลับกรุงธนบุรีผ่านเมืองร้างแห่งหนึ่ง และทรงเห็นว่าเป็นสถานที่ที่มีชัยภูมิดี จึงทรงให้สร้างเมืองขึ้นมา ซึ่งก็ปรากฏเป็นเมืองบุรีรัมย์อย่างในทุกวันนี้นี่เอง

ความพิเศษอีกอย่างของศาลหลักเมืองที่นี่ คือมีเสาหลักเมืองสองต้นอยู่เคียงกัน ซึ่งในประเทศไทยจะมีแค่เพียง 3 จังหวัดเท่านั้นที่มีเสาหลักเมืองเคียงกันสองต้น นั่นคือ กรุงเทพมหานคร อุดรธานี และบุรีรัมย์ โดยตัวอาคารศาลหลักเมืองที่เราเห็นในปัจจุบัน เป็นการก่อสร้างเพิ่มเติมครั้งที่ 4 แล้วนะ โดยจำลองแบบมาจากปราสาทหินพนมรุ้งนั่นเอง บริเวณใกล้กันยังมีศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ประดิษฐานรูปจำลองเทพเจ้าของจีนไว้ให้แวะสักการะกันอีกด้วย ส่วนตรงกลางระหว่างศาลหลักเมืองกับศาลเจ้านั้น จะเห็นปูนปั้นเป็นรูปดอกบัว 8 กลับอยู่ตรงกลาง ซึ่งบริเวณนี้ละคือสะดือของเมืองบุรีรัมย์ ถ้าใครไม่คุ้น อธิบายต่ออีกนิดว่าสะดือเมืองก็คือจุดกึ่งกลางของตัวเมือง อย่างที่ตรงจุดนี้ ถ้าใครมายืนอยู่ ลองเปิดกูเกิ้ลแม็พดูจะเห็นว่ากำลังยืนอยู่ตรงกลางของแนวเมืองบุรีรัมย์ตามสมัยเดิมเป๊ะเลยละ ส่วนดอกบัว 8 กลีบที่เห็น ก็จำลองมาจากรูปสลักในบริเวณปราสาทหินพนมรุ้งเช่นกันจ้า

บุรีรัมย์เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่ามาใช้ชีวิตง่ายๆ สบายๆ โดยเฉพาะใครที่ชอบท่องเที่ยวแนวศึกษาศิลปะโบราณ และวัฒนธรรมท้องถิ่นน่ารักๆ คงจะถูกใจ แม้ที่เที่ยวแต่ละที่จะไม่ได้ถือว่าหวือหวายิ่งใหญ่ แต่บอกได้เลยว่าเสน่ห์ของเมืองนี้อยู่ที่ความน่ารักของผู้คน โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งหลายที่ช่างพูดช่างคุยต้อนรับขับสู้เราได้อย่างน่ารักและอบอุ่น ถ้าจะถามความเห็นเรานะ เราว่าแค่ได้แวะมารับพลังบวกดีๆ จากมิตรไมตรีของผู้คนเมืองนี้ก็คุ้มแล้วละ เพราะแม้ว่าจุดหมายปลายทางจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจให้เรามาเยือน แต่สิ่งที่เจอระหว่างทางต่างหากล่ะที่จะฝากความประทับใจให้เราได้มากจนยากจะลืม : )

AUTHOR

S.J.

สาว (เหลือ) น้อย ที่ชอบคิดว่าตัวเองยังเอ๊าะ
รักการแบกเป้ตะลุยโลก (โดยเฉพาะฝั่งเอเชีย) ชอบที่จะได้
เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างของแต่ละตารางเมตรบนแผนที่ผ่าน
อาหารการกินและการเม้าท์มอยกับผู้คนท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง
แต่ยังไปได้ไม่กี่ประเทศเพราะทุนยังไม่อำนวย …
รวยเมื่อไหร่จะพาทุกคนในเว็บนี้ไปให้ได้ ไม่เชื่อคอยดู!

Facebook : มนุษย์ป้าพาเที่ยว
Instagram : yui_zaa

Niichiiz *
Niichiiz *https://movearound-journey.com
IG : https://www.instagram.com/niichiiz13

Related Stories

Discover

รวม 10 พิกัด ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ถ่ายรูปสวยชิค

หลังจากจีนฟรีวีซ่าก็ทำเอาเราหยุดเที่ยวจีนไม่ได้เลย หลงเสน่ห์ประเทศนี้เข้าเต็มเปา! ใครที่กำลังลังเลใจ กล้าๆ กลัวๆ ว่าจะไปเที่ยวจีนด้วยตัวเองครั้งแรกดีมั้ย? แนะนำลองจองตั๋วบินไปเที่ยว “เซี่ยงไฮ้” ก่อนเป็นที่แรกเลยค่ะ เพราะเที่ยวง่าย การเดินทางสะดวกสบาย มีรถไฟใต้ดินไปถึงทุกที่ บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ไฮเทค...

วิธีขึ้นรถไฟความเร็วสูงประเทศจีน สำหรับเดินทางข้ามเมือง

หลังจากจีนฟรีวีซ่าให้คนไทยได้เข้าไปเที่ยวประเทศจีนอย่างสะดวกโยธินมากยิ่งขึ้นแล้ว เชื่อว่ามีสายเที่ยวหลายคนที่กำลังเมียงมองประเทศจีนไว้เป็นหนึ่งใน Destination List อาจจะตั้งคำถามว่า เที่ยวจีนด้วยตัวเองยากมั้ย? เราอยากจะย้ำความมั่นใจให้ว่า "เที่ยวจีนด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด" เลยค่ะ โพสนี้เราก็เลยอยากมาแชร์ วิธีขึ้นรถไฟความเร็วสูงประเทศจีน ไว้ให้เป็นข้อมูล สำหรับคนที่มีแพลนอยากไปเที่ยวจีนด้วยตัวเอง อยากจะบอกว่าการเดินทางไปเมืองใกล้เคียงด้วยรถไฟความเร็วสูงนั้นเป็นวิธีที่คนจีนใช้กันเป็นเรื่องปกติมากๆ...

รีวิว ซัวเถา (Shantou) กิน เที่ยว มู รับเฮงปีมังกร 3 วัน...

ยินดีกับนักท่องเที่ยวไทยทุกคนที่กำลังจะมีประเทศฟรีวีซ่าให้เที่ยวเพิ่มอีกหนึ่งประเทศแล้ววว นั่นก็คือ “ประเทศจีน” นั่นเอง โพสนี้ก็เลยจะขอพาไปเปิดม่านเมือง "ซัวเถา" บ้านเกิดของคนไทยเชื้อสายจีนในอดีตที่โล้สำเภาเดินทางแบบเสื่อผืนหมอนใบมาตั้งรกรากในประเทศไทย จะขอพาไป กิน เที่ยว มู ในเมืองซัวเถา และแต้จิ๋ว หนึ่งในที่เที่ยวเมืองจีนที่เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเที่ยวเมืองจีนด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกแบบเราที่สุด...

รีวิว Sea Season Pool Villas ที่พักสวยติดทะเลพัทยา

วันหยุดว่างๆ ทีไร เราล่ะชอบพาตัวเองไปพักผ่อนชิลๆ ที่พัทยามากจริงๆ อาจเพราะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปไม่ไกล ก็ได้นั่งมองทะเลสวยๆ แล้ว โพสนี้ก็เลยอยากมารีวิวที่พักติดทะเลพัทยาที่เพิ่งไปมาแล้วชอบมากอย่าง Sea Season Pool Villas Pattaya...

รีวิว เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) อัพเดทมุมถ่ายรูปชิค

นี่คือการมาเที่ยว “เซี่ยงไฮ้” ประเทศจีน เป็นครั้งแรกในชีวิตของเรา อยากจะบอกว่าเปิดมุมมองมากกก เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองไวบ์ดีกว่าที่คิด ไลฟ์สไตล์ของที่นี่ก็ชิลสุดอะไรสุด บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะ ที่สำคัญคือเป็นประเทศจีนที่เที่ยวง่ายมากค่ะ มีรถไฟใต้ดินหลายสาย การเดินทางไม่ซับซ้อน คนจีนที่นี่ส่วนใหญ่สื่อสารภาษาอังกฤษง่ายๆ...

แผนเที่ยวฟุกุอิ (Fukui) ดื่มด่ำธรรมชาติ ย่ำรอยประวัติศาสตร์ ในเมืองสุดอันซีนของญี่ปุ่น

แผนเที่ยวฟุกุอิ เล่มนี้ จะพาคุณนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปสูดกลิ่นอายอดีต ย่ำรอยประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหาของแดนปลาดิบ พร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติให้ฉ่ำปอด ในจังหวัดสุดอันซีนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทรงเสน่ห์อย่าง ‘ฟุกุอิ’ ฟุกุอิ เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์หลายหลากซุกซ่อนไว้อย่างคาดไม่ถึง ที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการวิจัยฟอสซิลไดโนเสาร์ ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ‘Fukui Prefectural Dinosaur Museum’...

Popular Categories

Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่