อ้าแขนเตรียมต้อนรับ ‘ประเทศฟรีวีซ่า’ น้องใหม่ล่าสุดอย่าง ‘ประเทศจีน’ ที่กำลังจะเริ่มยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไทยในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ด้วยการรีวิวขั้นตอนการผ่าน ตม. ซึ่งเป็นด่านแรกของการเดินทางท่องเที่ยวเมืองจีนด้วยตัวเอง หลายคนที่เพิ่งเคยไปเมืองจีนครั้งแรก อาจจะยังแอบกังวลว่าพอฟรีวีซ่าแล้วยังไงนะ? ตม. จีนโหดมั้ยนะ? เราจะผ่านเข้าไปเที่ยวได้แบบฉลุยเลยหรือเปล่านะ? มาค่ะ .. เดี๋ยวโพสนี้เราจะมารีวิวขั้นตอนการผ่าน ตม. พร้อมแชร์ วิธีกรอกใบตม. ขาเข้าประเทศจีน ให้นะ : )
คนไทยไปประเทศจีนต้องขอวีซ่าไหม?
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป คนไทยที่วางแผนไปเที่ยวประเทศจีน “ไม่ต้องขอวีซ่า” อีกต่อไป (จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง) โดยสามารถพำนักอยู่ในประเทศจีนได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน และหากมีการเดินทางเข้า – ออกหลายครั้งภายใน 180 วัน จะสามารถพำนักอยู่ในประเทศจีนได้ไม่เกิน 90 วัน .. ได้ยินแบบนี้แล้วนักท่องเที่ยวสายฟรีวีซ่าแบบเราก็ใจฟูสิคะ เพราะจากไทยเดินทางไปประเทศจีนใช้เวลาไม่นาน (น้อยกว่าญี่ปุ่นซะอีก) แถมจีนยังเป็นประเทศที่ใหญ่มากกก และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ถ้าได้ลองเปิดใจไปเที่ยวจีนสักครั้ง รับรองต้องติดใจและมีทริปต่อๆ ไปแน่นอน!
เตรียมตัวกรอกใบขาเข้า และการผ่าน ตม. ประเทศจีน
อัพเดทล่าสุด ปัจจุบัน ถ้าเดินทางเข้าประเทศจีน ไม่จำเป็นต้องทำ Health Declaration แล้วนะคะ ฉะนั้นสำหรับขั้นตอนการเตรียมพร้อมตอนอยู่ประเทศไทย มีแค่เพียงเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางต่างๆ เช่น ใบจองตั๋วเครื่องบินขากลับ / ใบจองโรงแรม / แผนเที่ยวแบบคร่าวๆ เผื่อไว้ในกรณีที่ ตม. ขอดู (ของเราเตรียมไว้ แต่ ตม. ไม่ได้ขอดูเอกสารอะไรค่ะ)
- เมื่อเดินทางไปถึงประเทศจีนแล้ว หลังลงจากเครื่อง ให้เดินไปตามป้าย Immigration ไปจนเจอด่าน ตม. ก่อนเข้าช่องผ่าน ตม. จะมีจุดกรอก Arrival card ซึ่งปัจจุบันยังเป็นการกรอกแบบกระดาษ (ต่างจากญี่ปุ่นและเกาหลีที่มีให้กรอกแบบออนไลน์แล้ว) เราก็หยิบ Arrival card มากรอกให้เรียบร้อย (เรารีวิววิธีกรอกใบ ตม. ไว้ให้แล้วด้านล่างนะ)
- เมื่อกรอกเสร็จเรียบร้อย ก็ไปยื่นต่อแถวเพื่อผ่าน ตม. เหมือนประเทศอื่นๆ เลยค่ะ ไม่รู้สนามบินของเมืองอื่นๆ เป็นเหมือนกันมั้ย แต่ที่สนามบินเจียหยางของเมืองซัวเถา จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยหลายคนทีเดียว บรรยากาศอาจจะดูเกร็งๆ นิดๆ แต่จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ค่อนข้างน่ารักค่ะ เขาพยายามเดินมาช่วยคนที่กรอกเอกสารไม่เป็น ฉะนั้นไม่ต้องกลัวนะ ยิ่งถ้าพูดภาษาจีนได้ จะชวนเมาท์เลยค่ะ (เห็นคนไทยที่พูดจีนได้ คุยกับเจ้าหน้าที่กันสนุกสนาน ส่วนเราพูดไม่ได้เลย แฮ่ๆ)
- พอถึงคิวของเรา ก็ยื่น Arrival card พร้อมพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ เขาก็จะเช็คพาสปอร์ตของเราพร้อม Arrival card และถามคำถามนิดหน่อย เช่น มากี่วัน / มากับใคร / จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ตรงนี้ก็ตอบกลับไปแบบสบายๆ เลยค่ะ ไม่ต้องกังวล เจ้าหน้าที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีเลยทีเดียว
- เมื่อ ตม. พิจารณาดูแล้ว เห็นว่าเราตั้งใจมาท่องเที่ยวจริงๆ ก็จะปั๊มพาสปอร์ตให้ เราก็ออกไปรอรับกระเป๋าแล้วเตรียมลั้นล้าต่อในประเทศจีนได้เลย!
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนกรอกใบตม.ขาเข้าประเทศจีน
1. Passport เล่มปัจจุบันที่ยังไม่หมดอายุ
2. หมายเลขเที่ยวบินขาไปและขากลับ
3. ชื่อและที่อยู่โรงแรมสำหรับคืนแรก
วิธีกรอกใบตม. ขาเข้าประเทศจีน (China Arrival Card)
ใบตม.ขาเข้าประเทศจีน (ด้านหน้า) มีรายละเอียดดังนี้
1. นามสกุล
2. ชื่อ
3. วันเกิด (ปี ค.ศ./เดือน/วัน)
4. หมายเลขพาสปอร์ต
5. หมายเลขเที่ยวบิน (ขามา)
6. เบอร์โทรศัพท์
7. เมืองที่ตั้งใจจะไปเที่ยว
8. ชื่อและที่อยู่โรงแรมในประเทศจีนคืนแรก
9. เพศ (หญิง/ชาย)
10. สัญชาติ
11. ชื่อภาษาจีน (ถ้ามี)
12. หมายเลขวีซ่า
13. จุดประสงค์ของการมาทริปนี้
– Diplomacy Official (เจ้าหน้าที่การทูต)
– Employment (พนักงาน)
– Visiting Relatives (เยี่ยมญาติ)
– Visiting Business (เยี่ยมชมธุรกิจ)
– Study (ศึกษา)
– Transit (เปลี่ยนเครื่อง)
– Permanent Residence (ถิ่นที่อยู่ถาวร)
– Tourism (ท่องเที่ยว)
– Other (อื่นๆ)
ใบตม.ขาเข้าประเทศจีน (ด้านหลัง) จะเป็นการตอบคำถามมีทั้งหมด 3 ข้อ มีรายละเอียดดังนี้
ข้อ 1 คุณได้จองตั๋วขากลับแล้วหรือยัง?
ถ้ามีตั๋วแล้วติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง Yes และกรอกวันที่เดินทางกลับและหมายเลขเที่ยวบินขากลับ
ข้อ 2 คุณมีคนรู้จักหรือผู้ที่ติดต่อได้ในประเทศจีนหรือไม่?
ถ้ามีให้กรอกชื่อที่อยู่และเบอร์ติดต่อได้เลย แต่ถ้าไม่มีติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง No
ข้อ 3 คุณเคยไปประเทศใดบ้างในช่วงสองปีที่ผ่านมา?
ถ้าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ไปไหนเลยให้กรอก Thailand ได้เลย
จากนั้นเช็นชื่อในช่อง Signature เป็นอันเสร็จสิ้นการกรอกใบตม.ขาเข้าประเทศจีนค่า