ชี้ 6 พิกัดเด็ด! เก็บมุมสวยเพื่อแชะภาพแจ่มๆ ทั่วญี่ปุ่น!!

ไปญี่ปุ่นไปทำไร? – เอ้า ไปถ่ายรูปสิแกร๊ มาถึงแดนปลาดิบทั้งทีมันต้องมีช็อตเด็ดกลับไปอัพอวดเพื่อนๆ ให้อิจฉาเล่นว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง เลือกเอาได้เลย ตามฟิล!

สวนสาธารณะริมอ่าวฮากาตะของเมืองฟุกุโอะกะแห่งคิวชู เมืองท่าน่ารักที่มีดีกรีเป็นเมืองน่าอยู่น่าพักติดอันดับโลก การเดินทางก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพราะตั้งอยู่ห่างจาก “Fukuoka Tower” แลนด์มาร์กของเมืองเพียงเส้นถนนกั้น เดินข้ามถนนเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว แนะนำว่าเพิ่มความฟิตให้กำลังขาตัวเองอีกสักนิดแล้วเดินไปไกลจากจุดศูนย์กลางสักหน่อย จะเจอสะพานทอดยาวยื่นออกไปกลางทะเล ตกเย็นมีหนุ่มสาวชาวแดนปลาดิบมานั่งมุ้งมิ้งกรุ๊งกริ๊งกินลมชมวิวดูพระอาทิตย์ตกดินกัน คาวาอิมากๆ ตรงจุดนี้จะสามารถเก็บภาพอ่าวฮากาตะรวมถึงแลนด์มาร์กอย่าง Fukuoka Tower ได้แจ่มชัดทีเดียว ยิ่งไปถูกที่ถูกเวลาตอนตะวันใกล้ร่ำลาจากท้องฟ้าไปนะ อืมหืมมมมม…โรแมนติกอย่าบอกใคร!




สถานที่ : ฟุกุโอะกะ
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดิน Kuko Line (สายสีส้ม) สถานี Nishijin ทางออก 1 จะถึง Fukuoka Tower ก่อน จาก Fukuoka Tower เดินข้ามถนนไปประมาณ 5-10 นาที
พิกัด : Momochi Seaside Park 33.595008, 130.352929  / สะพานกลางทะเล 33.596911, 130.354560

ธีมพาร์กขนาดใหญ่แห่งเมืองนางาซากิ ศูนย์รวมความบันเทิงทั้ง สวนสนุก รีสอร์ท และสวนดอกไม้ ตกแต่งสไตล์ยุโรป ให้กลิ่นอายคล้ายกำลังเดินเล่นอยู่ในหมู่บ้านฮอลแลนด์ โดยที่นี่มีจัดแสดงดอกไม้ตามฤดูกาลตลอดทั้งปีด้วย ฉะนั้นใครอยากได้ฟิลไหนคงต้องเช็คตารางกันอีกที ช่วงเวลาแนะนำคือ เทศกาลดอกทิวลิป (Tulip Festival) ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ – กลางเดือนเมษายน ขอบอกว่าสีสันหลากหลายจากดอกทิวลิปสวยๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกให้ตลบอบอวลไปทั่วเมืองนางาซากิมากทีเดียว มุมถ่ายรูปก็มีให้เลือกหลากหลาย เอาเป็นว่ามาที่นี่ที่เดียวรับรองว่าได้รูปเด็ดไว้เปลี่ยนภาพโปรไฟล์หลายภาพแน่นอน!

สถานที่ : นางาซากิ
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Hakata รถไฟสาย JR Limited Express “Huis Ten Bosch” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที หรือจากสถานี Nagasaki รถไฟสาย JR Express “Seaside Liner” ใช้เวลลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที              
พิกัด : 33.086307, 129.787176
ดูข้อมูลหรือเช็คตารางเทศกาล : https://goo.gl/iZ4pVm

จะเจ๋งแค่ไหนถ้าได้ร่วมเฟรมกับสองสัญลักษณ์หลักของแดนปลาดิบอย่าง “ภูเขาไฟฟูจิ” และ “รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น” โดยพิกัดนี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มช่างภาพญี่ปุ่นแต่ไม่ค่อยมีคนไทยรู้จักนักเพราะไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวและต้องเดินไกลพอสมควร แต่เราอยากแนะนำ! เพราะเป็นมุมแปลกใหม่ที่คุ้มค่าต่อการเดินไปลั่นชัตเตอร์ รวมถึงอยากนำเสนออีกหนึ่งจังหวัดนอกสายตาแต่รับรองว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีโอกาสเห็นฟูจิซังได้สวยงามไม่แพ้ที่อื่นใด นั่นคือ “ชิซุโอะกะ” นั่นเอง ว่าก็ว่าไป จังหวัดนี้มีมุมแปลกๆ ของฟูจิซังให้เห็นอยู่หลายมุม ทั้งยังเงียบสงบ ไม่ต้องเบียดเสียดแย่งที่ยืนถ่ายรูปกันใคร ลองไปเยือนสักครั้ง อาจจะเผลอตกหลุมรักเอาได้ง่ายๆ เชียว ^^

สถานที่ : ชิซุโอะกะ
วิธีการเดินทาง : รถไฟ JR Tokaido Line ลงสถานี Fujikawa เดินต่อประมาณ 20 นาที เดินไกลนิดนึงและอาจจะงงๆ เพราะแถวนั้นเป็นบ้านคนและโรงงาน ฉะนั้นพอออกจากสถานีรถไฟแล้วจิ้มพิดกัดใน Google Map แล้วเดินตามแผนที่จะง่ายที่สุดน้า
พิกัด : 35.137643, 138.628605

ท่าเรือเก่าแก่ขนาดใหญ่ถูกนำมารีโนเวทออกแบบใหม่จนสวย เท่ ทันสมัย ปัจจุบันได้กลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนกายหย่อนใจของคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะบรรยากาศยามเย็นตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดินสวยงามและโรแมนติกมากกกก จนกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งยอดนิยมของคนญี่ปุ่นด้วย ที่สำคัญยังมีมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปแนวๆ มากมายหลายจุด จะยืนแอ็คท่าตรงจุดไหนก็ชิค น่าโพสขึ้น IG แบบรัวๆ ที่นี่ตั้งอยู่ระหว่าง “Minato Mirai 21” และ “Yamashita Park” ฉะนั้นวิวโดยรอบรับรองว่าแจ่ม! มองเห็นตึกแดงหรือ Yokohama Red Brick Warehouse (Akarenka) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโยโกฮามะอีกต่างหาก แถมยังอยู่ใกล้โตเกียวอีกด้วย คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่มาแชะรูปงามๆ!

สถานที่ : โยโกฮามะ
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Yokohama นั่งรถไฟ Minato Mirai Line ลงสถานี Nihon-Odori แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที   
พิกัด : 35.451768, 139.647876

อันที่จริงเมืองหลวงแดนปลาดิบอย่างโตเกียวมีพิกัดเด็ดให้แชะภาพงามๆ อยู่หลายจุด แต่ครั้นจะแนะนำ ห้าแยกชิบุยะ ฮาราจูกุ หรือสถานีโตเกียว ก็คงดูธรรมดาและอาจจะได้เห็นภาพกันจนชินตาแล้ว ฉะนั้นเราขอพาไปเก็บจุดเด็ดในมหาวิทยาลัยดีกว่า! แหม ใครจะไปคาดคิดว่าภายในมหาวิทยาลัยจะมีมุมถ่ายรูปเจ๋งๆ ด้วย แต่มหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่นมีทัศนียภาพภายในสวยงามจนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากทีเดียว หนึ่งในนั้นคือมหาวิทยาลัยโตเกียวแห่งนี้นี่เอง โดยที่นี่จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะภายในมหาวิทยาลัยปลูกต้นแปะก๊วยไว้เรียงราย ถึงยามเปลี่ยนสีทีบรรยากาศที่นี่จะอบอวลไปด้วยสีเหลืองทองอร่ามไปทั่วบริเวณเลยทีเดียว ทั้งนี้โปรดอย่าลืมว่าที่นี่คือมหาวิทยาลัย เป็นสถานที่ราชการที่มีคนมาศึกษาเล่าเรียนกันจริงๆ ฉะนั้นให้เกียรติสถานที่ด้วยการแต่งตัวสุภาพ และอย่าส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นด้วยนะจ๊ะ

สถานที่ : โตเกียว
วิธีการเดินทาง : Tokyo Metro สาย Namboku Line สถานี Todai-Mae
พิกัด : 35.712660, 139.761957

พาขึ้นเหนือข้ามมายังเกาะฮอกไกโดบ้าง พิกัดนี้ไม่ไกลจากเมืองหลวงแห่งเกาะเหนือเลย เพราะตั้งอยู่ในเมืองซัปโปะโระนั่นเอง – Moerenuma Park คือ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ยึดครองพื้นที่สีเขียวของซัปโปะโระเกินกว่าพันไร่ ด้านในประกอบด้วยภูมิสถาปัตยกรรมหลายจุดซึ่งจัดวางองค์ประกอบได้อย่างลงตัวเพราะเป็นผลงานการออกแบบของ คุณอิซาโมะ โนะงุจิ (Isamu Noguchi) นักออกแบบชื่อดังระดับโลก ภายในสวนมีมุมถ่ายรูปเจ๋งๆ อยู่หลายมุม ไม่ว่าจะเป็น “HIDAMARI” พีระมิดแก้วที่สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ “Sea Fountain” น้ำพุขนาดใหญ่ที่มีแรงดันน้ำพ่นได้สูงถึง 25 เมตร “Tetra Mound” ภูเขาจำลองขนาดย่อมที่โค้งคลุมด้วยเสาพีระมิด รวมไปถึง “Mt. Moere” ภูเขาจำลองขนาดใหญ่และสูงที่สุดในสวน ซึ่งขอบอกว่าเมื่อเดินขึ้นบันไดไปจนถึงจุดบนสุดจะสามารถเก็บภาพเมืองซัปโปะโระได้กว้างแบบ 360 องศา นับเป็นมุมที่เจ๋งและสวยงามมากทีเดียว




สถานที่ : ซัปโปะโระ
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Toho สถานี Kanjo-DoriHigashi ต่อรถบัส Chou Bus สาย 69 หรือ 79 ลงป้าย Moerenuma koen higashiguchi เดินประมาณ 5 นาที
พิกัด : 43.123710, 141.426662

Nichikarn Chomratanadilok (Niichii)

อดีต บรรณาธิการ All About Japan E-magazine
หยุดพักบ้าง ฝันบ้าง อยู่กับความจริงบ้าง
แต่ไม่เคยหยุดเดินทาง

❤
IG  /  Facebook