โตเกียว .. วันเดียว เที่ยวตามอารมณ์
A Day in Tokyo
- September, 2018 -
ว่ากันว่า “สีชมพู” เป็นสีที่สื่อถึงความรัก
มีความหมายในมิตรภาพและความอ่อนโยน
สามารถปลอบประโลมความรู้สึกของคนได้
#2018 เป็นปีที่ญี่ปุ่นโดนมรสุมหนักจริง
ทั้งพายุไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว ไปจนคลื่นความร้อน
เราเลยอยากทำ “โตเกียว” โพสต์นี้ให้เป็นสีชมพู
เพื่อสื่อถึงความรักที่มีต่อญี่ปุ่น เป็นอีก 1 กำลังใจ
ให้เรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไป กลายเป็นวันฟ้าใส
เพื่อต้อนรับฤดูท่องเที่ยวปลายปีที่กำลังจะมาถึง
.. และนี่คือ โตเกียว ภายใน 1 วัน
เช้า สาย บ่าย เย็น ตามโทนสีของอารมณ์
ผสมความพิงค์พาสเทล ให้รู้กันไปว่า .. .
โตเกียว ในมุมชิลๆ แบบไม่วุ่นวายเป็นอย่างไร
: )
บินตรงไปโตเกียวกับ การบินไทย อุ่นใจทุกครั้ง เดี๋ยวนี้ราคาบินไปโตเกียวไม่แรงเหมือนแต่ก่อนแล้ว ยิ่งช่วงไหนมีโปรฯ บินคู่ออกมา ชีพจรที่เท้ามันกระตุกทุกที
เช้า : Chop Coffee
กฎของการไปเที่ยวแบบชิลๆ คือ ตื่นสายหน่อยก็ได้ ออกจากโรงแรมสัก 9-10 โมงก็ยังถือว่าไม่สาย นั่งรถไฟไปจิบกาแฟแบบสบายๆ ที่ร้าน Chop Coffee ย่านโอโมเตะซันโดะ (Omotesando) ย่านที่ได้ฉายาว่า “ช็องเซลีเซแห่งโตเกียว” คาเฟ่ร้านนี้บรรยากาศดี น่าถ่ายรูปอัพขึ้น IG มาก ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ชิค และคลีน แม้ภายในร้านจะมีที่นั่งไม่มากนัก แต่ก็มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ โดยเฉพาะที่นั่งด้านนอก มุมที่ไม่ว่าใครไปก็ต้องถ่ายรูป เช็คอิน อัพขึ้นโซเชียล ติดแฮชแท็กแบบเชยๆ ว่า #ชีวิตดี แหมะ ก็นะ .. สำหรับวันชิลๆ แบบนี้ ได้กาแฟอุ่นๆ สักแก้วมาเติมพลัง มันจะมีอะไรดีไปกว่านี้ จริงมั้ยเธอ : )
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สายสีส้ม (Ginza Line) สายสีเขียว (Chiyoda Line) หรือสายสีม่วง (Hanazomon Line) ลงสถานี Omote-Sando ทางออก A1 เดินประมาณ 5-10 นาที
สาย : Cat Street
เราโคตรรักย่านนี้ของโตเกียวเลย ไม่ว่าจะไปโตเกียวกี่ครั้ง มีเวลาน้อยแค่ไหนก็ต้องแวะไปทุกครั้ง เพราะ Cat Street เป็นแหล่งช็อปปิ้งที่อยู่ใกล้ฮาราจูกุแค่เอื้อมแต่บรรยากาศกลับโล่ง โปร่ง เดินสบาย ผิดกับถนนสายช็อปปิ้งจอแจอย่างถนนทะเคชิตะอย่างสิ้นเชิง ย่านนี้มีร้านเสื้อผ้าเก๋ๆ แบบมีสไตล์เยอะ รวมไปถึงร้านเสื้อผ้ามือสองสภาพดี ราคาแบบจับต้องได้ แถมยังเป็นย่านที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างฮาราจูกุและถนนโอโมะเตะซันโดะ ฉะนั้นจึงสามารถแว๊บไปเที่ยวฮาราจูกุหรือเดินเล่นที่ย่านโอโมะเตะซันโดะต่อได้ หรือจะเดินไปชิบุยะต่อก็ยังไหว ถ้าใครเป็นสายช็อปปิ้ง พูดเลยว่าห้ามพลาดย่านนี้เด็ดขาด!
วิธีการเดินทาง : JR Yamanote Line ลงสถานี Harajuku แล้วเดินผ่านถนนโอะโมะเตะซันโดไปประมาณ 5 นาที
บ่าย : Kichijoji
ถามหามุมสงบอีกมุมในโตเกียว ขอให้ลองเลี้ยวไปที่ย่านคิชิโจจิได้เลย เพราะเป็นย่านชิลๆ ที่มีความน่ารักอยู่ในตัว จะไปช็อปปิ้งก็ได้ มีร้านขายของมือสองมากมาย หรือจะแวะจิบกาแฟอีกสักร้านก็ยังไหว เพราะเต็มไปด้วยคาเฟ่ชิคๆ หลายร้าน แต่ที่ขอแนะนำคือ สวนอิโนคาชิระ (Inokashira Park) สวนสาธารณะบรรยากาศสบายๆ อีกหนึ่งจุดที่คนโตเกียวนิยมมาดูดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี มีเรือเป็ดให้เช่าด้วย ดีไม่ดีจะเผลอหมดเวลากับที่นี่ไปทั้งบ่ายทีเดียว
วิธีการเดินทาง : รถไฟ JR Chuo-Sobu Line หรือ Keio Inokashira Line ลงสถานี Kichijoji ทางออก Park Exit
เย็น : Kansai Rinkai Park
เคยได้ยินมาว่า “ภูเขาไฟฟูจิ ยิ่งใหญ่จนสามารถมองเห็นจากโตเกียวได้ในวันฟ้าใส” ถ้าใครอยากพิสูจน์ว่าจริงมั้ย ขอท้าให้ลองไปที่สวนสาธารณะ Kansai Rinkai Park แห่งนี้ดู เพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดในโตเกียวที่สามารถมองไกลถึงฟูจิซังในวันที่ท้องฟ้าเป็นใจได้ ซึ่งเราไปพิสูจน์มาแล้วว่าจริง! .. เก๋ไปกว่านั้นก็คือสวนสาธารณะแห่งนี้มีหลายมุมให้ถ่ายรูปชิคๆ เก๋ๆ เพื่ออัพขึ้นโซเชียล รวมไปถึงมีชิงช้าสวรรค์ไว้สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนฟีลอยากมองทิวทัศน์ของโตเกียวในมุมสูงด้วย แม้จะต้องนั่งรถไฟไปไกลสักหน่อย (ทางเดียวกับที่ไปดิสนีย์แลนด์) แต่รับรองว่าต้องได้รูปในมุมที่ค่อนข้าง Unseen Tokyo อย่างแน่นวล : )
วิธีการเดินทาง : รถไฟ JR Keiyo Line ลงสถานี Kasai Rinkai Koen Station แล้วเดินประมาณ 5-10 นาที จะถึงโซนริมอ่าวที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้
